ตอนที่ 2 ท่องเที่ยวดาร์จีลิ่ง สิกขิม ประเทศอินเดีย

ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3

ตอนที่ 1 เดินทางมา ดาร์จิลิ่ง กังต๊อก
ตอนที่ 2 กังต๊อก หมู่บ้านลาชุม หุบเขาชุมถัง
ตอนที่ 3 กังต๊อก ทะเลสาบฌางโก เดินทางกลับ

วันที่ 2-10 พฤษภาคม 2558

ตอนที่ 2

กังต๊อก หมู่บ้านลาชุง หุบเขาชุมถัง

วันที่ 5 พฤษภาคม 2558

ช่วงเช้าระหว่างรอไกด์จัดการเรื่องเอกสาร หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย ทุกคนก็มารวมพลกันที่ Lobby ใช้บริการ Wifi. ของโรงแรมกัน แต่พอใช้กันเยอะก็ต้องขอยอมแพ้ ไปถ่ายภาพเล่นดีกว่า

วันนี้เปลี่ยนรถจาก 2 คันเดิมเป็นรถของ Sikkim

ออกเดินทางจากกังต๊อกสู่หมู่บ้านลาชุง เป็นหมูบ้านที่อยู่ทางสิกขิมเหนือ หมู่บ้านนี้ล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัย.ระยะทางประมาณ 120 Km เส้นทางวิ่งไปตามเขา ถนนแคบและมีโค้งมาก ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ ออกเดินทางประมาณ 10 โมงใช้เวลาในการเดินทางพร้อมแวะจุดชมวิว น้ำตกมีเยอะมากเลือกแวะชมบางที่เท่านั้นค่ะและทานอาหารกลางวัน ประมาณ 7-8 ชั่วโมง

ช่วงเช้าอากาศค่อนข้างหนาวเลยจัดเต็มกันเลย ระหว่างทางมาเกือบครึ่งทางอากาศเริ่มร้อน ต้องถอดออกคนละ 3-5 ชั้น 555

แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ Hotel Angeela Fooding อาหารเป็นอาหารพื้นเมืองอาการเยอะมาก รวมอาหารที่พี่จ๋า Miss-Travel จัดเตรียมเสริมมา ทำให้การเดินทาง Trip นี้ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารเลย โดยเฉพาะหมูทอด ฝีมือพี่จ๋าอร่อยมากค่ะ

จากนั้นก็อิ่มอร่อยด้วยไอศครีม Gold belgian Chocolate

ที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ทั่วเมืองและจุดท่องเที่ยวจะมีการติดธงมนตรา 5 สี เหลือง น้ำเงิน ขาว แดง เขียว หมายถึง ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง

เมื่อถึงจุดด่านตรวจ ไกด์จะต้องนำเอกสารที่ขออนุญาตไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ ทำให้พวกเรามีเวลาเดินเล่นและดื่มชา เห็นภาพประทับใจคือแม่ทุบหินให้เป็นก้อนเล็กๆวางลูกเล็กนอนในตะกร้ามีพี่นั่งดูน้องอยู่ใกล้ๆ เป็นภาพที่น่ารักมาก อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเล่นด้วย

ระหว่างรอเอกสารไกด์ชวนให้เดินเล่น ชมธรรมชาติที่สวยงามได้ภาพสวยๆคนละหลายภาพ เดินได้ประมาณ 10 นาทีรถก็มารับเพื่อเดินทางต่อ

แวะชมธรรมชาติเป็นระยะๆ

และแล้วก็ถึงหมู่บ้านลาชุง เข้าพักที่ HighLand's Home น้าวัช สมัครใจเลือกห้องพักชั้น 1 ของคนอื่นๆเป็นห้องพักบนดาดฟ้า 3. ห้อง ห้องพักสวยมากตกแต่งด้วยไม้

ต้อนรับด้วยชาร้อนและขนม

ได้เวลารับประทานอาหารมื้อเย็น

ในห้องนั่งเล่นมีเตาผิงไฟด้วย

ไม่มี Heater แต่พี่จ๋า Miss-Travel ใจดีเช่า Heaterให้เราห้องละ 2 คืนๆละ 300 บาท 2 คืน 500 บาท ทำให้เรานอนหลับสบาย

วันที่ 6 พฤษภาคม 2558

หมู่บ้านลาชุง. หุบเขายุมถัง Zero Point

ตื่นเช้าท้องฟ้าสวยมาก เห็นภูเขาหิมะชัดมาก นายแบบ นางแบบ ก็หน้าตาอิ่มเอิบแจ่มใส

รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย เตรียมพร้อมเรื่องเสื้อผ้าและรองเท้า เช่ารองเท้าบู้ท คู่ละ 50 รูปี พร้อมแล้วออกเดินทาง ถึงจุดที่ไกด์ยื่นเอกสารพร้อมพาสปอตและเอกสารอนุญาตเข้าสิกขิมของทุกคน เพื่อขออนุญาตเข้าไปที่ยุมถัง ชมธรรมชาติข้างทาง และตรงไปยังเป้าหมาย Zero Point. ก่อน สถานที่เที่ยวอื่นๆค่อยแวะเยี่ยมชมขากลับ

ที่ Zero Point ทุกคนสนุกกับการเล่นหิมะและถ่ายภาพ อากาศหนาวมาก ดีนะที่ทุกคนเตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้า หมวก ถุงมือไว้พร้อมมีปัญหาเฉพาะช่วงที่ถ่ายภาพต้องถอดถุงมือ ต่อไปต้องหาถุงมือที่เปิดนิ้วได้ซักคู่แล้วล่ะ

เล่นหิมะกันพอสมควร ดื่มชาร้อนพอให้ร่างกายอุ่นๆ

ระหว่างเดินทางกลับแวะถ่ายภาพที่จุดชมวิวสวยมากๆ

มาถึงหุบเขายุมถังหรือทุ่งหญ้าลอยฟ้า หุบเขากว้าวที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 4,200 เมตร เป็นหุบเขาที่มีธรรมชาติงดงามที่สุดในสิกขิม บริเวณจองยุมถังจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธ์ โดยเฉพาะกุหลาบพันปี มีหลากสีสัน จนได้รับสมญานามว่า. หุบเขาแห่งดอกไม้ และดอกไม้สีม่วงดอกเล็กๆเกือบจะติดพื้นดิน สวยมาก ไม่ทราบว่าชื่ออะไร ใครทราบบอกด้วยค่ะ

เดินเล่นมาเรื่อยๆจนถึงจุดนัด ระหว่างรอคณะที่ยังเดินมาไม่ถึงถือโอกาสถ่ายภาพสวยๆได้อีกหลายภาพ

แวะชมน้ำพุร้อน แต่ต้องเดินขึ้นเนิน ฝนก็เหมือนจะตกรับเตรียมร่มใส่เป้ไว้ ต้องเดินช้าๆไม่งั้นจะเหนื่อยมาก ก็เลยเดินไป พักไป จุดตรงนี้สวยมากมีธารน้ำไหล และมีสะพานข้ามธารน้ำ มองเห็นภูเขาหิมะได้ชัดเจนมาก

อีกจุดที่พลาดไม่ได้ก็คือสวนดอกไม้กุหลาบพันปี มีดอกกุหลาบพันปีหลากสีสันตลอดเส้นทาง แต่ส่วนใหญ่จะเห็นสีแดง จุดที่โชเฟอร์หยุดให้พวกเรามีกุหลาบพันปีหลายสีมาก ทุกคนตื่นเต้นกับการถ่ายภาพ

หลังจากนั้นก็กลับไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมเชื่อมั๊ยคะว่าบ่าย 3 แล้วแปลกจังวันนี้ทำไมไม่ค่อยรู้สึกหิว สงสัยจะเต็มอิ่มด้วยความสวยงามของหุบเขาแห่งดอกไม้แสนสวยและเสน่ห์ของภูเขาหิมะ

หลังจากนั้นรถก็ไปส่งที่วัด Lachung Monastery วัดแห่งนิกายน์ญิงมาในพระพุทธศาสนามหาญาณในธิเบต วันนี้วัดปิดแล้วไม่มีพระ ทำได้เพียงเดินชมบริเวณวัด ดีที่ไกด์นอระวี นับถือศาสนาพุทธและเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมและเข้าใจ ได้อธิบายความรู้และหลักการปฏิบัติให้เข้าใจได้ง่ายๆ

จากนั้นเดินกลับไปโรงแรม ระยะทางประมาณ 1.5 Km ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่าจะเดินไปถึงหรือไม่แต่เป็นการเดินจากที่สูงลงที่ต่ำทำให้ความเหนื่อยน้อยลง วิธีเดินต้องเดินช้าๆ เดินชมหมู่บ้านลาชุง สังเกตชัดเลยว่าโรงแรมใหม่ๆ สร้างขึ้นมากเลย ร้านค้าจะเป็นร้านค้าเล็กๆสินค้าส่วนใหญ่จะซื้อมาจากกังต๊ก เสียดายจังที่ที่นี่ไม่มีสินค้าพื้นเมืองขาย ตอนแรกคิดว่าจะมีแหล่ง Shopping เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ. ที่น่าแปลกอีกอย่างคือไม่มีร้านขายผลไม้เลย

รับประทานอาหารเย็น มื้อนี้ทานไม่ไหวจริงๆก็เพิ่งจะทานมื้อเที่ยงตอนบ่าย 3 เอง กลับพักผ่อนที่ห้องพักตามอัธยาศัย

วันที่. 7 พฤษภาคม 2558

หมู่บ้านลาชุง กังต๊อก

ตื่นเช้าวันนี้อากาศดีมาก ท้องฟ้าสีสวยกว่าทุกวัน เห็นภูเขาหิมะรอบหมู่บ้านลาชุงชัดเจนมาก เก็บความทรงจำอันสวยงามผ่านภาพถ่ายในมุมต่างๆ ก่อนอำลาหมู่บ้านลาชุง ดินแดนอันไร้ที่ราบ เก็บภาพถ่ายบางมุมที่ยังไม่ได้ถ่าย ฉากผนังบ้าน ประตู หน้าต่าง ที่แปลกๆน่าสนใจ ไม่รอดสายตาตากล้องอย่างพวกเราไปได้.

หลังจากนั้นก็รับประทานอาหารเช้า ซึ่งวันนี้ทางโรงแรมมีกิจกรรมพิเศษให้พวกเราสร้างความประทับใจมากๆคือ การนำผ้าขาวคล้องคอให้ทุกคนและอวยพรให้พวกเราเดินทางโดยสวัสดิภาพ พนักงานและเจ้าของร้านออกมาส่งพวกเราขึ้นรถ และร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ทุกคน Friendly มาก หน้าตายิ้มแย้มมีความสุขตลอดเวลา อบอุ่นดีจัง

ระหว่างทางชมธรรมชาติอันสวยงาม มีบางจุดที่ก้อนหินหล่นมากองขวางทาง ลุ้นระทึกกัน รถต้องไต่ไปบนเนินหินสูงๆ แต่โชเฟอร์เค้าคงเจอบ่อยๆไม่เห็นจะตื่นเต้นเลย ฝีมือขับนฝรถเค้ายอดเยี่ยมจริงๆ แต่พวกเราลุ้นระทึกเชียว ระหว่างทางผ่านแม่น้ำทิสต้า TISTA

ระหว่างแวะพักรถเจอภาพความประทับใจ เด็กตัวเล็กรู้จักทำมาหากิน ขายลูกอมหน้าห้องน้ำ. น้องทิพย์ที่ร่วมคณะไปด้วย ให้เงินไป 1 รูปี น้องเค้าไม่เอาเงินทอนเด็กคนนี้ไม่ยอมวิ่งไปหาเงินทอนจนได้

พักกลางวันที่ร้านเดิมกับขาไป

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ถึงโรงแรม Central Fortune โรงแรมเดิมที่ฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่นี่

ช่วงนี้อิสระตอนเย็นก็ไปเที่ยวในเมือง เข้าเมืองประมาณ 5 Km ทีมจากสุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 คน ตัดสินใจไปเที่ยวที่ MG Market ไปรถ Taxi. ขาไป 200 รูปี ขากลับ 250 รูปี โชคดีที่ซานจีฟเดินมาพอดี เลยได้ไปกับพวกเราด้วย ซานจีฟขอเบอรโทรคนขับ Taxi เรียบร้อย เลย Shopping กันอย่างสบายใจ ตลาดเค้าน่าเดินมากห้ามรถเข้าเดินได้อย่างเดียว ตลาดไม่ใหญ่มาก ได้ซื้อของกันคนละเล็กละน้อย