ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 1 ตะลอนทัวร์ ญี่ปุ่น 31 มีนาคม - 7 เมษายน 2559 (การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง-เดินทางจากสุราษฎร์ธานี ถึง สนามบินนาริตะ)

ตอนที่ 1 ตะลอนทัวร์ ญี่ปุ่น 31 มีนาคม  2559
ตอนที่ 1    ตอนที่ 2  ตอนที่ 3  ตอนที่ 4  ตอนที่ 5  ตอนที่ 6  ตอนที่ 7

เดินทางวันแรก


การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางกันเองไม่ได้ไปกับทัวร์ แต่พวกเราก็มีความมั่นใจในการเดินทางในครั้งนี้มากนำทีมโดยน้องฟ้า หลานสาวคนสวย ซึ่งมีประสบการณ์ด้านภาษาญี่ปุ่น เคยไปโครงการแลกเปลี่ยนที่โตเกียวมาแล้ว และทำงานที่บริษัทญี่ปุ่น มีโอกาสได้ไปโตเกียวกับบริษัท 2-3 ครั้ง ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษก็อยู่ในระดับดีเชียวแหละ นอกจากนี้น้องฟ้าเป็นคนที่เรียนรู้สิ่งรอบข้างและช่างสังเกต เตรียมข้อมูลก่อนการเดินทางพอสมควรทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ผู้ช่วยในการสืบค้นข้อมูลในการจองตั๋วเครื่องบิน  จองที่พัก ก็ยกให้หลานสาวคนสวยอีกคนคือน้องพลอย ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่น้องพลอยได้เดินทางไปญี่ปุ่นก็เป็นผู้สืบค้นข้อมูลต่างๆให้กับคณะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารการกรอกใบเข้าเมือง ประเทศญี่ปุ่น  การปฏิบัติตนและมารยาทที่พึงปฏิบัติ น้องพลอยก็จะส่งมาให้คณะได้เรียนอยู่ก่อนการเดินทาง  คนสำคัญคือสปอนเซอร์รายใหญ่รับผิดชอบเรื่องการเดินทางค่าเครื่องบินไปกลับ และค่าเดินทางรถไฟฟ้าตลอดทริป คือพี่สาวที่น่ารักคือ พี่ตุ๊    ประกันภัยการเดินทางแบบกลุ่ม พี่สาวที่น่ารักอีกคน คือพี่จา คุณแม่ของน้องฟ้า น้องพลอย ค่าที่พักพวกเราตัดสินใจเลือกพักอพาร์ทเม้น น้ากิต เป็นผู้รับผิดชอบ อีกคนที่สำคัญไม่แพ้คนอื่นๆ พวกเราในทริปนี้ตั้งให้เป็นสาว Strong หล่อน ทำไ้ด้ทุกอย่างตัวเล็กนิดเดียวแต่ทำได้ทุกอย่าง น้องสายรุ้ง นั่งเอง หล่อน สายตาไวมาก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนต่อไปนะคะ ในบันทึกการเดินทางทริปนี้ขอแทนตัวเองว่าน้ากิตนะคะ เพราะเราเดินทางการฉบับครอบครัวกัน ในการเดินทางครั้งนี้เราไปกัน 6 สาว ขอเรียกว่า แก๊งสาวสวย 555

พวกเรานัดพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ป้าตุ๊ กับน้ากิต เดินทางจากสุราษฎร์ธานี ด้วยสายการบิน Thai Lion Air  SL735 กำหนดเครื่องออกเวลา 10.30 น. แต่วันนี้เครื่อง Delay ทุกสายการบินเลยล่ะค่ะ กว่าจะออกก็ 11.35 น. ไปถึงสนามบินดอนเมือง ก็ประมาณ 12.30 น กว่าจะรอรับกระเป๋า และเข้าคิวเรียก Taxi แต่ระบบเรียก Taxi ดีจังเร็วดีเดินไปถึงเจ้าหน้าที่กดบัตรคิวให้ ไปยื่นที่เจ้าหน้าที่ไปได้เลย แต่ว่าใช้เวลากว่าจะไปถึงสุวรรณภูมิ รถติดเป็นบางช่วง กว่าจะถึงสุวรรณภูมิก็เกือบบ่ายสอง หิวมากเลย เดินไปเห็นร้านแรก S&P  อิ่มอร่อยเรียกพลังมาได้เต็มร้อย หาที่นั่งรอสาวๆ น้องสายรุ้ง ไกลสุด มาจากฝั่งธนบุรี ส่วนน้องฟ้า น้องพลอย แม่จา ใกล้หน่อย มาจากแถวๆพระโขนง  



เห็นคนรอเข้าแถว Check in แล้วตกใจมากเข้าแถวกันยาวเหยียดเลย แต่เจ้าหน้าที่ทำงานเร็วดีเหมือนกันนี้ จากนั้น ก็เขียนใบ ตม.ของประเทศไทยกัน กรอกง่ายหน่อยเพราะเรากรอกกันออกจะบ่อย 
เด็กๆต้องไปรับ Wifi Pocket ที่จะต้องเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่น หน้าที่เขียนใบ ตม.  เลยเป็นหน้าที่น้ากิต ช่วยเขียนให้เพื่อความรวดเร็ว 

บัตรขาออกใช้ตอนนี้ พร้อมกับ Passport และ Boarding Pass ยื่นที่ ตม.

ส่วนบัตรขาเข้าจะใช้วันที่เรากลับเข้าประเทศไทย


อ้อ ไม่ลืมที่จะแลกเงิน เยน กันพอสมควร เพราะไปซื้อของที่โน่น เราสามารถใช้ Credit Card ได้

ขั้นตอนต่อไปก็คือการผ่านด่าน Immigration 
ขั้นตอนแรกต้องขึ้นบรรไดไปชั้นบนเพื่อผ่านการ scan จุดนี้ scan ละเอียดมาก เสร็จแล้วก็เดินลงมาชั้นล่างไปยังช่องสำหรับคนไทย ผ่านด่านเป็นระบบอัตโนมัติ ก็เร็วดีแต่บางครั้งก็มีปัญหาบ้างเหมือน จุดแรกยื่นบัตร departure card ให้เจ้าหน้าที่ เปิดหน้าพาสปอร์ตที่มีภาพถ่ายคว่ำ ประตูจะเปิดให้เข้าไปทำขั้นตอนต่อไปที่พื้นมีรอยเท้าให้เหยียบบนรอยเท้า ตามองกล้องถ่ายภาพ ยืนนิ่งๆถ่ายภาพอัตโนมัติ หลังจากนั้นให้วางนิ้วชี้บนที่วาง วางให้เต็มนิ้วอย่ากดแรงไป ประตูจะเปิดอัตโนมัติ เสร็จขั้นตอนการผ่านด่านตรวรคนเข้าเมือง


หลังจากนั้นก็เดินไปยัง GATE ที่ระบุใน Boarding Pass พวกเราเดินทางด้วย VIETNAM AIRLINES  VN 602  19.30 ไปเปลี่ยนเครื่องที่ HO CHI MINH CITY, VIETNAM  21.00  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง มีความจำเป็นที่จะต้องแลกเงินดอลล่าติดตัวไว้บ้างเผื่อซื้อน้ำดื่มหรืออาจจำเป็นใช้เงิน ดีที่น้ากิตมีเงินดอลล่าติดตัวอยู่บ้างเหลือตั้งแต่ทริปที่ไปเที่ยวพม่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แนะนำว่าถ้าไม่มีเงินดอลล่าควรแลกติดตัวไปบ้าง รอเปลี่ยนเครื่องเกือบ 4 ชั่วโมง แต่เดินดูของกันเพลินมีขอให้ดูเยอะแยะเลย เดินทางด้วย  VIETNAM AIRLINES VN 300 เวลา 00.55 ถึง TOKYO NARITA, JAPAN เวลา 08.00 เวลาญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง รวมเวลาอยู่บนเครื่อง 6.30 ชั่วโมงและเวลารอเปลี่ยนเครื่องอีก 4 ชั่วโมง  รวมเวลาทั้งหมด 10.30 ชั่วโมง 













เมื่อเดินทางถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น

การกรอกใบเข้าเมือง-ประเทศญี่ปุ่น


แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรญี่ปุ่นนั้น แอร์จะแจกให้เราตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินแล้ว แต่ถ้าใครไม่ได้รับก็สามารถไปหยิบได้ที่สนามบินเหมือนกัน ใบ ตม. ญี่ปุ่นจะมีอยู่ 2 ส่วนก็คือ ใบขาเข้า (Disembarkation Card) และใบขาออก (Embarkation Card) ซึ่งจะติดอยู่แผ่นเดียวกัน การกรอกข้อมูลก็ไม่ยากอะไร แต่หลายคนมักจะลืมกรอกด้านหลัง  และจำนวนเงินที่นำเข้ามา  พอไปถึงด่าน ตม.ที่ญี่ปุ่นจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูให้ก่อน เพื่อความรวดเร็ว 



เอกสารอีกใบก็คือ Customs Declaration จะใช้หลังจากรับกระเป๋าแล้ว ช่วงที่เดินออกมาทางศุลกากรจากสนามบิน บางคนเจ้าหน้าที่ก็ให้เปิดกระเป๋าเพื่อตรวจ บางคนเค้าก็ให้ผ่านไปได้เลย ของทีมพวกเราเค้าเพียงลองยกกระเป๋าแล้วถามคำถามนิดหน่อยว่าไม่มีของผิดกฏหมายในกระเป๋าใช่มั๊ย 

เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆ พร้อมท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้วล่ะ 
เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นสิ่งที่ควรศึกษาก่อนล่วงหน้าก็คือ
เว็บไซต์เรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ขอแนะนำเว็บไซต์ http://www.tokyometro.jp/th/index.html


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ