ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 1 เดินทางซีอาน สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ (สนามบินสุวรรณภูมิ-เจิ้งโจว-ซีอาน )

ตอนที่ 1 เดินทางซีอาน สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้  (สนามบินสุวรรณภูมิ-เจิ้งโจว-ซีอาน )
ตอนที่ 1  ตอนที่ 2  ตอนที่ 3

        ซีอาน (Xī'ān) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนซีอาน เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของโลกเมืองหนึ่ง ความหมาย: ความสงบสุขทางตะวันตก) เป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี ในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์จีน ในอดีตซีอานได้เป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์ รวมทั้ง โจว ชิน ฮั่น และ ถัง ซีอานยังเป็นเมืองปลายทางของเส้นทางสายไหม ซีอานมีประวัติอันยาวนานมากกว่า 3,100 ปี โดยชื่อเดิมว่า ฉางอาน (Cháng'ān) ซึ่งมีความหมายว่า "ความสงบสุขชั่วนิรันดร์" ซีอานเป็นเป็นเมืองที่เจริญและใหญ่ที่สุดในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

       ภูมิอากาศของภูมิภาคนี้อบอุ่น มีฝนตกมาก มีปริมาณฝนเทียบได้ใกล้เคียงกับภูมิภาคด้านใต้ของประเทศจีนในปัจจุบัน ดังนั้น ประชากรที่นี่จึงค่อนข้างมาก ทางตะวันออกของ ซีอาน ห่างไปประมาณ 6 กิโลเมตร มีหมู่บ้านชื่อ ปั้น-ภอ-ฌุน ได้มีการค้นพบหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 6 พันปี ซึ่งมีประชากรประมาณ 500 คน ฮ่องเต้ของราชวงศ์ โจวตะวันตก ได้เคยสร้างเมืองหลวง 2 เมือง ทางตะวันตกของ ซีอาน












💓 สารคดีเปิดสุสาน จิ๋นซี


เดินทางจากสุราษฎร์ธานีไปสนามบินดอนเมืองโดย ThaiLion Air เที่ยวบิน SL 741 เวลา 14.50 




นั่งรถ  Free Shuttle Bus "ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ และ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง"  
รถวิ่งแบบ non-stop ไม่รับส่งผู้โดยสารรายทาง ตั้งแต่เวลา 5.00-24.00 น. ทุกวัน รถออกทุก 20 นาที เพียงแสดงตั๋ว ใบยืนยันการเดินทาง หรือบอร์ดดิ้งพาสขาเข้า (แม้จะไม่ได้ไปต่อเครื่อง) ก็ใช้ขึ้นรถได้ดอนเมืองขึ้นรถได้ที่ชั้น 1 ขาเข้าประตู 8 จากสุวรรณภูมิขึ้นรถได้ที่ชั้น 2 ประตู 3 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
1 หยวน ประมาณ 5 บาท 
ไปครั้งนี้แลกไปเพียง 2,000 บาท ได้มา 400 หยวน 



นัดพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ E เวลา 23.30  ระหว่างรอเช็คอินสายการบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE 680 ไปยัง สนามบินเจิ้งโจว (Zhengzhou Airport) Boarding Time:  01.50 น. 




หลังผ่านด่าน ตม.ถ่ายภาพเล่นกันนิดหน่อย ลองกล้องของน้าวัช ไม่อยากจะบอกว่าน้าวัชเพิ่งจะถอยโทรศัพท์ใหม่ ไม่ได้เห่อนะคะนี่







นั่งเพลินๆก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องคงเลยเวลาง่วงแล้วล่ะ เค้าเสริฟอาหารทานไม่ไหวล่ะ ขอเก็บไว้ทานตอนเช้าแล้วกันเพราะเค้าเสริฟอาหารให้มื้อเดียวพรุ่งนี้ไม่เสริฟ หัวหน้าทัวร์บอกว่าอาหารมื้อเช้าให้เราเตรียมไปเองทางทัวร์จะเลี้ยงมื้อเที่ยง ก็เลยเก็บจากอาหารไว้ทานพรุ่งนี้เผื่อพรุ่งนี้ไม่สะดวกในการหาซื้ออาหารเช้า 


เวลาในเมืองจีนเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง ถึงเมืองเจิ้งโจว เมืองหลวงมณฑลเหอหนาน เวลา 7.30 น. น้องบ๊อบ ทำหน้าที่หัวหน้าทัวร์ นำคณะผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย นื่องจากครั้งนี้มากับทัวร์และทำวีซ่ากลุ่ม เข้าแถวเรียงลำดับชื่อในวีซ่า รับสัมภาระเรียบร้อย มีไกด์จีน ชื่อ ผิง รอรับพวกเราด้านนอก ก่อนออกมาด้านนอกทุกคนจัดเต็มค่ะ อากาศหนาวมากประมาณ 2-3 องศา



เมืองเจิ้งโจว เป็นอีกหนึ่งเมืองของประเทศจีน ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านการเมือง อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการศึกษาที่สำคัญของมณฑลเหอหนาน เมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนาน (Henan) สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเมืองที่มีการทำอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน จึงทำให้ที่นี่เจริญรุ่งเรือง มีสิ่งที่น่าสนใจให้ได้ท่องเที่ยวมากมาย เมืองเจิ้งโจว มีความสำคัญทางด้านคมนาคมในภาคกลางของจีน เพราะที่นี่มีเส้นทางหลวง 1 ใน 7 สายสำคัญของประเทศ มีเส้นทางรถไฟและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน พร้อมทั้งยังมีทางด่วนและถนนสายสำคัญอีกหลายสาย นอกจากนี้ยังมีสนามบินมากถึง 3 แห่ง เมืองเจิ้งโจวจึงกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทางท่องเที่ยวจีนและประเทศต่าง ๆ ในโซนเอเชียและยุโรป
มีแม่น้ำเหลือง (Yellow River) หรือแม่น้ำฮวงโห (Huang He) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับสองของจีนไหลผ่าน  แต่ป้าหมายของคณะเราคือซีอาน เจิ้งโจว เป็นเพียงทางผ่านที่ลงเครื่องและเดินทางต่อไปยังซีอาน มณฑลกวางซี ระยะทางเกือบ 500 Km


จุดแรกที่แวะชมก็คือ ศาลเจ้ากวนอู เมืองลั่วหยาง 
ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองลั่วหยางออกไป 7 กิโลเมตร เล่าขานกันว่าเป็นที่ฝังศีรษะของกวนอู แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยสามก๊ก และเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของชาวจีน ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจีน ภายในศาลเจ้าประกอบไปด้วยตำหนักสามตำหนัก ตำหนักหลักของศาลเจ้ากวนอูตั้งอยู่ภายใน ระยะทางผ่านจากประตูใหญ่เข้าไป ประมาณ 50 เมตร มีสิงโตหินจำนวน 104 ตัวเรียงรายสองข้างทาง ที่บริเวณตำหนักใหญ่ มีรูปปั้นกวนอูขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้คนที่เคารพนับถือสักการบูชา ตำหนักที่สอง หันหน้าไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของลัวหยาง ตามเรื่องของสามก๊ก กวนอูแพ้สงครามจึงถูกจับตัดหัว เพื่อยุให้โจโฉและเล่าปี่เกลียดแค้นกัน ซุนกวนได้นำศีรษะของกวนอูส่งไปให้โจโฉ โจโฉซึ่งชื่นชอบในตัวกวนอู ได้นำศีรษะของกวนอูไปฝังอย่างสมเกียรติ บริเวณรอบๆ ปลูกต้นสนมากมายจนเป็นป่าสน จึงมีชื่อว่า “กวนหลิน”

กวนอู เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก เกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน 6 จีนศักราชเอี่ยงฮี ปี พ.ศ. 703 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั้นฮวนเต้ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เดือนที่ 7 จีนศักราชเคี่ยงเซ้ง ปี พ.ศ. 762 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ เป็นชาวอำเภอไก่เหลียง ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก กวนอูเป็นผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ 9 ฟุตจีนหรือประมาณ 6 ศอก ใบหน้าแดงเหมือนผลพุทราสุก นัยน์ตายาวรี คิ้วดั่งหนอนไหม หนวดเครางามถึงอก มีง้าวรูปจันทร์เสี้ยว ยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง เป็นอาวุธประจำกายเรียกว่า "ง้าวมังกรเขียว" หรือ "ง้าวมังกรจันทร์ฉงาย" เชี่ยวชาญและเก่งกาจวิทยายุทธ จงรักภักดี กตัญญูรู้คุณ มีคุณธรรมและซื่อสัตย์เป็นเลิศ

กวนอูเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพบูชาและศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก กวนอูเปรียบเสมือนเทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพกราบไหว้บูชาในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่อ ไม่เพียงแต่ยกย่องให้กวนอูเป็นเทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่ออย่างเดียวเท่านั้น แต่กวนอูยังได้รับสมญานามให้เป็นถึงคือมหาเทพกวนอูผู้ยิ่งใหญ่แห่งความจงรักภักดี คุณธรรม และ ความกล้าหาญ


















































































รับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นก็เดินทางสู่เมืองซีอาน










เจดีย์ห่านป่าใหญ่ Big Wild Goose Pagoda หรือ เจดีย์ต้าเอี้ยนถ่าตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกำแพงเมืองซีอาน โดยอยู่บนถนนเอี้ยนถ่าลู่ ซึ่งเป็นถนนที่ตัดตรงจากเขต กำแพงเมืองชั้นในลงมา จะมองเห็นองค์เจดีย์เด่นเป็นสง่า องค์เจดีย์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 652 ในรัชสมัยจักรพรรดิถังเกาจง (TANG KAO ZHONG) โดยก่อนหน้านี้ในปี ค.ศ. 648 ในรัชสมัยจักรพรรดิถังไท้จง (TANG TAI ZHONG) พระราชโอรส เจ้าชายหลี่จื้อ (จักรพรรดิถังเกาจงในเวลาต่อมา ทรงครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาในปี ค.ศ. 650) ได้สร้างวัดต้าสือเอินซื่อ (TA SI EN SI) (วัดกตัญญุตาราม) นี้ขึ้นก่อน เพื่อเป็นการทดแทนพระคุณของพระราชมารดา คือ เหวินเต๋อหวงโฮ่ว จากนั้นเมื่อทรงขึ้นครองราชย์แล้วจึงได้สร้างเจดีย์นี้ขึ้นตามคำขอของพระถังซำจั๋ง ในบริเวณวัดดังกล่าว

องค์เจดีย์มีรูปแบบเรียบง่าย ในศิลปะจีนผสมอินเดีย เดิมนั้นสร้างเพียง 5 ชิ้น แต่เมืองซีอานได้ประสบภัยแผ่นดินไหวมาหลายครั้ง จึงได้มีการบูรณะเรื่อยมาและมีการบูรณะ ใหญ่ในสมัยราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ปัจจุบันองค์เจดีย์มี 7 ชั้น สูง 64.1 เมตร ฐานขององค์เจดีย์วัดจากตะวันออกไปตะวันตกยาว 45.9 เมตร จากเหนือไปใต้ยาว 48.8 เมตร

ตามประวัติ เจดีย์ห่านป่าใหญ่ ศาสนสถานโบราณที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในแผ่นดินจีน หลังจากที่พระถังซำจั๋งเดินทางไปยังชมพูทวีปเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมา ท่านก็ได้พำนักที่วัดต้าเฉียน และเป็นเจ้าอาวาสของวัดนี้ จากนั้นได้มีการสร้างเจดีย์ 5 ชั้นภายในอาณาเขตวัด ภายหลังได้ถูกทำลายลงในสมัยพระนางอู่เจ๋อเทียน พระนางจึงมีพระบัญชาให้สร้างขึ้นใหม่เป็น 10 ชั้น ก่อนจะพังทลายจากแผ่นดินไหวเหลือเพียง 7 ชั้นดังที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ซึ่งสามารถชมวิวข้างบนได้แล้ว ยังมีอนุสาวรีย์พระถังซำจั๋ง หอระฆังทางทิศตะวันออก หอกลองทางทิศตะวันตก พระอุโบสถที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ หอพระถังซำจั๋งที่มีรูปปั้นสัมฤทธิ์ของท่านในท่านั่งสมาธิ การได้มานมัสการที่วิหารพันปีแห่งนี้จึงนับได้ว่าเป็นสิริมงคลต่อชีวิตอย่างยิ่ง

































เข้าที่พักที่โรงแรม Skytel 


จากนั้นก็เดินไปยังถนนคนเดินอิสลาม ย่านใจกลางเมือง เป็นแหล่งขายสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก เช่น รูปปั้นทหารดินเผา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซีอาน รวมถึงขนมและอาหารพื้นเมือง

















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ