ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 4 เดินทาง 3 แคว้นแดนอินเดีย (อัมริดสา นิวเดลี จ๊อดปูร์ ) 12-13 กรกฎาคม 2560

ตอนที่ 4 ท่องเที่ยว 3 แคว้นแดนอินเดีย (อัมริตสา นิวเดลี จ๊อดปูร์ ) 12-13 กรกฎาคม 2560

ส่วนนำ  ตอนที่ 1  ตอนที่ 2  ตอนที่ 3  ตอนที่ 4  ตอนที่ 5

จ๊อดปูร์ (นครสีฟ้า)
12 กรกฎาคม 2560  (อัมริตสา นิวเดลี จ๊อดปูร์ )
05.00 น. เดินทางจากสนามบิน Sri Guru Ram Dass Jee International Airport  เที่ยวบินที่ 6E525 โดยสายการบินอินดิโก  07.45 น.ไปสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี ซึ่งอยู่ Terminal 1 แต่สายการบินแอร์อินเดีย อยู่ที่ Terminal 3 จะต้องนั่ง Shuttle Bus (อย่าลืมนะคะ สำคัญมากที่สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เราต้องตรวจสอบด้วยว่าอยู่ Terminal เพราะแต่ละ Terminal อยู่ห่างกัน)  ไปถึงก็รับประทานอาหารเช้า และเช็คอินไปเมืองจ๊อดปูร์  โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ AI475 เวลา 14.15 น.ถึงสนามบินจ๊อตปู เมืองโรแมนติกแห่งนครสีฟ้า







ส่วนมื้อเที่ยงเป็นของว่างก็ทานบนเครื่อง


มาถึงจ๊อดปูร์ เจ้าของรถที่พี่ตู่เช่าใช้ที่ จ๊อดปูร์และ จัยปูร์ให้การต้อนรับด้วยพวงมาลัยดอกดาวเรืองรู้สึกอบอุ่นดีจังเลย











เข้าพักที่โรงแรม Haveli Inn Pal Hotel
ที่อยู่: Near Clock Tower, Opp. Lake Gulab Sagar, Gulab Sagar, Jodhpur, Rajasthan 342001 อินเดียโทรศัพท์: +91 291 261 2519
























เดินชมเมือง ระหว่างเดินชมเมืองก็ต้องระวังจะเหยียบ ขรี้ นะ เดินไปตรงไหนก็เจอ ระหว่างที่จะเดินไปชมเมือง น้องเขม ไปเจอคุณลุงคนนึง เป็นศิลปินวาดภาพ อาสาที่จะพาเดินชมเมือง และชวนไปเที่ยวที่บ้านโชว์ผลงานภาพวาดฝีมือคุณลุง เลี้ยงชา พร้อมขนม ใจดีเดินมาส่งกลับโรงแรมอีกด้วย











































































รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆกับโรงแรมนี้ ภาพด้านล่างที่เห็นเป็นลิฟสำหรับขึ้นไปทานอาหารบนดาดฟ้าเพื่อดูบรรยากาศรอบเมือง 360 องศา 





















 







จุดที่นั่งทางอาหารจะมองเห็นหอนาฬิกา Clock Tower








13 กรกฎาค 2560  (จ๊อดปูร์ )
รับประทานอาหารเช้าที่ดาดฟ้าโรงแรมมองเห็นวิวอีกด้านจากเมื่อคืนได้ชัดเจนสวยงามเชียว เช้านี้น้องพลอยเริ่มมีอาการเป็นไข้ คงเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงตลอด ตั้งแต่อัมริดสา อากาศทั้งร้อน ทั้งโดนฝน เมื่อวานมาถึงเดินเล่นที่จ๊อดปูร์ ก็ทั้งฝุ่น ทั้งขรี้....เต็มถนนไปหมด...แต่บรรยากาศแวะวิถีชีวิตของคน
จ๊อดปูร์ก็ทำให้เราลืมๆภาพน่ากลัวออกไปได้เหมือนกันนะนี่ น้องพลอยไม่อยากจะออกไปเที่ยวแล้วล่ะวันนี้ น้ากิตคะยั้นคะยอให้ไป ถ้าไม่ไหวจะให้รถมาส่งเรากลับโรงแรม วันนี้เลยเที่ยวแบบออมแรง บางจุดก็เดินบ้างพักบ้าง...















จุดแรกของวันนี้ก็คือ อนุสรณ์สถาน Jaswant Thada 

อนุสรณ์สถาน Jaswant Thada ตั้งอยู่ห่างจากป้อม Mehrangarh Fort เมือง Jodhpur ไปประมาณ 1 กม. โดยมองเห็นมาจากตัวป้อมและเดินถึงกันได้ Jaswant Thada สร้างขึ้นในปี 1899 เพื่ออุทิศให้กับ Maharaja Jaswant Singh II หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว 4 ปี ค่าเข้าชมคนละ 30 รูปี ถ้าจะเอากล้องถ่ายรูปเข้าไปเค้าคิดเพิ่มอีกจำไม่ได้ล่ะว่าเท่าไร ทีมพวกเราส่วนใหญ่มีกล้องก็ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อจะได้ถ่ายภาพกัน








































จุดที่สองคือ ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) หนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย พระราชวังแต่ละที่ของประเทศอินเดีย ถือว่ามีความยิ่งใหญ่และสวนงามไม่แพ้ใคร รวมถึง ป้อมเมห์รานการห์(Mehrangarh Fort) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองดังอย่าง Blue City ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 หรือราวๆ ค.ศ. 1460 โดย Rao Jodha ป้อมปราการแห่งนี้ถูกสร้างอยู่บนเนินเขา อยู่สูงเหนือเมืองประมาณ 125 เมตร และล้อมรอบด้วยกำแพงทึบ ซึ่งสมัยก่อนที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรใหญ่ ภายในพระราชวังประดับด้วยแก้วหลากสี และแบ่งเป็นท้องพระโรงขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง โดยกำแพงของป้อมยังคงมีรอยถูกโจมตีจากปืนใหญ่อยู่บ้าง นอกจากนี้ภายในยังมีไฮไลท์อื่นๆที่ถูกสร้างขึ้น ทั้งประตูแห่งชัยชนะ, ประตูโลหะโปล, พระตำหนักพูลมาฮาล หรือพระตำหนักมวลดอกไม้, พระตำหนักโมติมาฮาล และอนุสรณ์สถานจัสวันต์ธาดา ถ้าใครชอบท่องเที่ยวโบราณสถาน ชอบประวัติศาสตร์ มาอินเดียอย่าลืมแวะที่นี่ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00-17.00 น.

พวกเราไม่ได้จ่ายค่าเข้าชมหรอกค่ะ แค่เดินรอบๆบริเวณที่เค้าให้เดินได้ก็พอแล้วล่ะ ได้ภาพสวยๆ แต่บางจุดถ่าเราไม่ได้จ่ายค่าขออนุญาตถ่ายภาพก็ก็จะไม่ให้ถ่าย หมายถึงถ่ายกับกล้อง DSLR กับกล้องมือถือไม่เห็นเค้าว่าอะไรนะ


































จุดที่สาม ก็คือพิพิธภัณฑ์พระราชวังอุเมดพาวันพาเลซ (Umaid Bhawan Palace) 


พระราชวังแห่งนี้เดิมสร้างขึ้นสำหรับเป็นตำหนักของมหาราชา แต่ในปัจจุบัน ที่นี่ใช้เป็นทั้งวัง โรงแรมที่มีระดับ และพิพิธภัณฑ์ ไปชมของที่ระลึกของกษัตริย์ ใช้ชีวิตสุดหรูในห้องสวีทที่คู่ควรสำหรับพระราชา และอิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์ราชาสถาน Henry Lancaster สถาปนิกชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้ออกแบบพระราชวัง Umaid Bhawan ให้แก่มหาราชาอุเมด ซิงห์ในปี 1929 พระราชวัง Umaid Bhawan ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาท่ามกลางสวนสวยที่เขียวชอุ่ม พิพิธภัณฑ์ของวังแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันโดยมีการคิดค่าธรรมเนียมเข้าชม เฉพาะแขกผู้เข้าพักเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าถึงโรงแรม

น้องพลอยมีอาการไม่สบาย เลยขอนั่งด้านนอกไม่เข้าไป น้ากิตเลยนั่งเป็นเพื่อนน้องพลอย ด้านนอกอากาศดีมาก นั่งดูคนอินเดียเดินผ่านไปผ่านมา แต่งชุดอินเดียสวยงาม ชอบมากเลย













จากนั้นก็รับประทานอาหารกลางวัน วันนี้ทานที่ร้าน On The Rocks จัดบรรยากาศแปลกตาดี มีบริเวณกว้างขวาง มีร้านขายเสื้อผ้า และ ร้านเครื่องประดับ รออาหารนานมาก




























จากนั้นก็ไปช้อปปิ้งที่ Ganesh Handicrafts ที่ตลาดใกล้ๆโรงแรม น้ากิต น้องพลอย และน้าวัช ไม่ Shopping ขอกลับไปนอนที่โรงแรมรู้สึกเพลียมาก ฝนก็จะตกแล้ว รีบเดินกลับโรงแรม นอนพักไม่ออกไปทานอาหารแล้วขอฝากท้องกับมาม่าจากเมืองไทยดีกว่า 

อีกคณะมีพลังเหลือเฟือนั่งรถตุ๊กๆไปเที่ยวเมืองสีฟ้า เดี๋ยวรอขอภาพเค้ามาดูก็ได้









ขอพักแบบเต็มที่พรุ่งนี้จะได้มีพลังเดินทางต่อไปจัยปูร์อีก.....

ส่วนนำ  ตอนที่ 1  ตอนที่ 2  ตอนที่ 3  ตอนที่ 4  ตอนที่ 5

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ