ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 6 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (16-17 เมษายน 2561)

ตอนที่ 6 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (16-17 เมษายน 2561)

เดินทางจาก SRINAGAR , สนามบินนิวเดลี, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง

ตอนที่ 1  ตอนที่ 2   ตอนที่ 3  ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6

วันนี้เป็นวันเดินทางกลับหลังรับประทานอาหารเช้า มีพ่อค้ามาขายสินค้าอีกล่ะ แต่วันนี้ราคาไม่สูงมากแล้วเพราะเรารู้ราคาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อกันอีกคนละเล็กละน้อย....ประเภทของที่ระลึกที่ทำจากการะดาษเปอร์มาเช่...มีเวลาเล็กน้อยต้องรีบเดินทางไปสนามบิน


วันนี้ฝนตกอีกแล้ว วันที่มาถึงฝนก็ตกวันเดินทางกลับฝนก็ตกดีที่มีเสื้อกันหนาวและกันฝนได้ด้วย เอาอยู่...






ขั้นตอนการตรวจที่สนามบิน Srinagar

ตั้งแต่จุดแรกพอผ่านเข้ามาในรั้วสนามบิน จะต้องเอากระเป๋าทุกใบทั้งใบใหญ่ใบเล็กผ่านเครื่อง Scan ผู้ชายผ่านทางช่อง Male ผู้หญิงผ่านทางช่อง Female ดีหน่อยที่ใส่เสื้อโค๊ทเข้าไปได้ไม่ต้องถอด หลังจากนั้นต้องนำกระเป๋าขึ้นไปบนรถอีกครั้งเพื่อเข้าไปด้านในรถต้องจอดด้านนอก ก็จะมีพนักงานมารอรับกระเป๋าถ้าใช้บริการต้องมีค่าทิปให้ ส่วนใหญ่พวกเราจะถือกระเป๋าไปเอง  ขอแนะนำนะคะ ถ้าถือเองได้ได้ถือไปเองจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าทิปแต่ถ้าไม่ไหวก็ใช้บริการเถอะค่ะ....แต่เค้าจะเรียกค่าทิปนะคะ Kashmir นี่เค้าเรียกค่าทิปเป็นล่ำเป็นสันเลย ไม่ว่าทำอะไรเรียกค่าทิปทั้งนั้น....หนาวเลย

จุดที่ 2 ช่วงที่ผ่านเครื่องสแกนของสายการบิน ผู้ชายผ่านทางช่อง Male ผู้หญิงผ่านทางช่อง Female จุดนี้จะเป็นจุดที่แยกกระเป๋าใบใหญ่ และสัมภาระที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่องจะมีสายรัดแน่นเลยล่ะ ใบเล็กสำหรับถือขึ้นเครื่อง ก่อนที่เราจะไป Check in ที่สายการบิน เราจะต้องเขียนใบ Register เหมือนกับขาเข้าเลยล่ะ ยื่น Passport + ใบ Register  หลังจากนั้นก็ไป Check in และรับ Boarding Pass และ Tag กระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องด้วยรับให้ครบจำนวนกระเป๋าด้วย

จุดที่ 3  ผู้ชายผ่านทางช่อง Male ผู้หญิงผ่านทางช่อง Female พนักงานจะ Stamp ที่ Boarding Pass เครื่องสแกนกระเป๋า ถ้ามีกล้องถ่ายภาพ เลนส์ โทรศัพท์มือถือ ให้นำออกมาใส่ในตะกร้าเลยค่ะ เมื่อผ่านแล้วเค้าจะ Stamp ที่ Tag กระเป๋า  หลังจากนั้นเค้าจะให้คนที่มีบัตรกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องติดที่หลัง Boarding Pass ไปตรวจเช็คความถูกต้องของกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อน

ตรวจสอบ Tag ด้วยเพราะก่อนขึ้นเครื่องเค้าจะตรวจ Tag ที่ผ่านการ Stamp แล้ว อีก 3 จุดก่อนจะขึ้นเครื่อง ก่อนขึ้นเครื่องมีเวลา Shopping กันเล็กน้อย มีร้านจำหน่ายสินค้าหลายร้าน น่าจะประมาณ 10 ร้าน สนามบินไม่ใหญ่มาก เครื่องออกประมาณ 12.50 น. ถึงสนามบินเดลี T1 ประมาณบ่ายสองกว่างๆ


ถึงสนามบินนิวเดลี บ่ายสองกว่าๆแล้วสมาชิกคงหิวกันแล้วเดินออกมาด้านนอกทางที่จะไปต่อรถ Shulttle Bus มีร้าน Fast Food หาของกินง่ายๆพอรองท้องกันก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถ Shuttle Bus ไปที่ T3 ให้แสดง Boarding Pass และตั๋วที่จะเดินทางต่อ จะได้ไม่ต้องจ่ายค่ารถนะคะ มาถึงเดลี อากาศก็ร้อนมากต่างจาก Kashmir เลยล่ะค่ะต้องถอดเสื้อโค้ทออกมาแล้วล่ะ เดี๋ยวถ้าอยู่ในอาคารคงดีขึ้น
Check in เพื่อรับ Boarding Pass ที่สนามบินนิวเดลี ต้อง Check in ทีละคน หลังจากนั้นก็ผ่านด่าน ตม. และ Scan กระเป๋า นำกล้องถ่ายรูป เลนส์ โทรศัพท์ ถ้ามีเสื้อโค้ทให้ถอดออกด้วย  ผู้ชายผ่านทางช่อง Male ผู้หญิงผ่านทางช่อง Female พนักงานจะ Stamp ที่ Boarding Pass เสร็จเรียบร้อยมีเวลาพอสมควรเครื่องจะออกประมาณ 3 ทุ่มมีเวลา Shopping โดยเฉพาะเครื่องสำอาง Himalaya  Shopping กันเพลินเลยค่ะ

ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณตีสามเวลาในประเทศไทย ผ่านตม.และรับกระเป๋าเรียบร้อย ออกไปรอเวลา Shuttle Bus เที่ยวแรกเพื่อเดินทางไปสนามบินดอนเมืองเพื่อเดินทางกลับสุราษฎร์ธานีด้วยสายการบินไทยไลอ้อนเวลา 8.50 ถึงสุราษฎร์ธานีประมาณ 9.50 น.กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ....See You Next Trip.......

ตอนที่ 1  ตอนที่ 2   ตอนที่ 3  ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ