ตอนที่ 1 การเดินทาง ยอกยาการ์ตา-บุโรพุทโธ วันที่ 4-9 พฤษภาคม 2561
วัดพลาโอซาน (Plaosan Temple) วัดปรามบานัน (Prambanan) ร้านบาติก ชมสินค้าย่านมาลิโอโบโร
พระราชวังน้ำ (Taman Sari หรือ Water Castle) พระราชวังสุลต่าน (Sultan Palace)
ตอนที่ 1 ตอนที่ 2
วันที่ 4-5 พฤษภาคม 2561
การเดินทางไปอินโดนีเซีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ แต่ครั้งแรกไปลงเครื่องที่บาหลีก่อนแล้วจึงจะมาที่ยอกยาการ์ตา คลิกอ่านการเดินทางบาหลี ยอกยาการ์ตา ครั้งแรก ปี 2559
จากสนามบินสุราษฎร์ธานีโดยสายการบินไทยไลออนแอร์ เที่ยวบินที่ SL735 โหลดกระเป๋าได้คนละ 10 กิโลกรัม จากสนามบินดอนเมืองไปสนามบินซูการ์โนฮัตตา (Soekarno Hatta International Airport ) เมืองจาการ์ตา โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ QZ253 โหลดกระเป๋าได้คนละ 12.5 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม เดินทางไปสนามบินอดิสุคิพโต (Adi Sucipto Airport) เมืองยอกยาการ์ตา โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ QZ7556 ครั้งนี้การเช็คอินกระเป๋าเช็ค 2 ได้รับ Boarding Pass มาเรียบร้อยทั้ง 2 ใบแต่ต้องระวังอย่าให้หายนะคะ.....เช็คอินที่สนามบินดอนเมืองไปรับกระเป๋าที่ สนามบินอดิสุคิพโต (Adi Sucipto Airport) เมืองยอกยาการ์ตา แบบนี้สะดวกมากเลยค่ะ
ในคณะเรามีบางคนได้รับ Customs Declaration ที่เป็นภาษาอินโดนีเซียด้วย เพราะเที่ยวบินนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนอินโดนีเซีย คนไทยน่าจะมีเฉพาะกลุ่มพวกเรามั๊ง ไม่ได้ยินคนพูดภาษาไทยเลย แสดงว่าคนอินโดนีเซีย นิยมมาเที่ยวเมืองไทยกัน เมื่อถึงท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา (Soekarno–Hatta International Airport) Terminal 3 ประมาณ 00.25 น. ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ต้องรอรับกระเป๋า เดินออกมาแลกเงินรูเปียห์ อินโดนีเซีย
สนามบินมีถึง 3 Terminal แต่ละ Terminal มีระยะทางห่างพอสมควร ต้องเดินทางด้วย Taxi, Shuttle Bus หรือไม่ก็ Skytrain ครั้งแรกพี่ตู่อ่านจากรีวิว มีคนแนะนำว่าเมื่อมาถึงให้อยู่ที่ Terminal 3 มีคนเยอะถ้าไปที่ Terminal 2 คนจะน้อยกว่า หลังจากหาที่นั่งที่นอนเหมาะๆ กับสมาชิก พี่ตู่กับน้องกิต ก็เดินหาข้อมูลการเดินทางไป Terminal 2 Taxi สามารถหาได้ในชั้น 1 Skytrain ต้องขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์ไปชั้น 2 ส่วน Shuttle Bus อยู่ชั้น 3 มีปัญหาว่า Skytrain จะเริ่มวิ่งเวลาตี 5 แต่เราต้องเดินทางไปยอกยาการ์ตา 05.35 น. เอาล่ะซิทำไงดีถ้าไป Skytrain ไปไม่ทันแน่ๆ ตัดสินใจไปด้วย Shuttle Bus ไปนั่งๆ นอนๆกันที่ Terminal 2 น่าจะโอเคกว่า พอไปถึง Terminal 2 ต้องเดินผ่านทางขึ้นโรงแรมตรงไป ดูเที่ยวบินที่หน้า Gate แต่ละ Gate จะขึ้นเที่ยวบินของ Gate นั้นๆ คนเยอะคึกคักดีอยู่ค่ะ สมาชิกได้พักผ่อนรอเวลาเดินทางต่อ
รถในการเที่ยวครั้งนี้ใช้รถ 2 คัน 10+4 คน เพราะหลายที่รถใหญ่เข้าไปไม่ได้ เราต้องเดินเข้าไปไม่ก็ต้องนั่งรถเล็กไปแบบนี้สะดวกดีกว่า
จันดีปรัมบานัน (Candi Prambanan) หรือ จันดีราราจงกรัง ( Candi Rara Jonggrang) คือเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในเขตชวากลาง ห่างจากเมืองยอกยาการ์ตาไปทางตะวันออกประมาณ 18 กิโลเมตร ตัววัดนั้นสร้างขื้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1390 แต่หลังจากสร้างเสร็จได้ไม่นาน ตัววัดก็ถูกทอดทิ้งและถูกปล่อยให้ทรุดโทรมตามกาลเวลา จนเมื่อถึงปี พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) จึงได้มีการเริ่มบูรณะวัดขึ้นมา การบูรณะของสิ่งก่อสร้างหลักสิ้นสุดลงเมื่อปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953)
ในปัจจุบัน ปรัมบานันถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกและนับได้ว่าเป็นหนึ่งในศาสนสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ตัววัดโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและความใหญ่โตของปรางค์ซึ่งมีความสูงถึง 47 เมตร ทวสถานแห่งนี้ใหญ่โตมาก มีวิหาร 156 หลังอยู่รอบๆกลุ่มวิหารขนาด ใหญ่ 8 หลังซึ่งรวมกันอยู่ ตรงกลาง
รับประทานอาหารเช้าที่ร้าน Satria Resto บรรยากาศดีมาก ถ่ายภาพคนดำนาและบรรยากาศเพลิน ลืมถ่ายภาพอาหารมาให้ชมกันเลย อาหารก็จะเป็นประเภทไก่ ปลา ผัก ประมาณนี้ค่ะ
วัดปรัมบานัน (Prambanan)
จันดีปรัมบานัน (Candi Prambanan) หรือ จันดีราราจงกรัง ( Candi Rara Jonggrang) คือเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในเขตชวากลาง ห่างจากเมืองยอกยาการ์ตาไปทางตะวันออกประมาณ 18 กิโลเมตร ตัววัดนั้นสร้างขื้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1390 แต่หลังจากสร้างเสร็จได้ไม่นาน ตัววัดก็ถูกทอดทิ้งและถูกปล่อยให้ทรุดโทรมตามกาลเวลา จนเมื่อถึงปี พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) จึงได้มีการเริ่มบูรณะวัดขึ้นมา การบูรณะของสิ่งก่อสร้างหลักสิ้นสุดลงเมื่อปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953)
ในปัจจุบัน ปรัมบานันถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกและนับได้ว่าเป็นหนึ่งในศาสนสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ตัววัดโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและความใหญ่โตของปรางค์ซึ่งมีความสูงถึง 47 เมตร ทวสถานแห่งนี้ใหญ่โตมาก มีวิหาร 156 หลังอยู่รอบๆกลุ่มวิหารขนาด ใหญ่ 8 หลังซึ่งรวมกันอยู่ ตรงกลาง
ค่าเข้าชม คนละ 320,000 รูเปียห์เป็นเงินไทยประมาณ 500 กว่าบาท พวกเรา 12 คนเข้าชม พี่ยิ่งกับพี่ตู่มาหลายครั้งแล้วตัดสินใจเดินชมบรรยากาศภายนอก วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนดีที่เรามากันตั้งแต่ช่วงเช้า เดินเข้ามาก็จะมีบริการเครื่องดื่มฟรี ชา กาแฟ หรือน้ำเปล่า ก็ได้ เดินเก็บภาพภายนอกครั้งนี้อยากได้ภาพที่เก็บภาพวิหารมุมกว้าง ได้ซักครู่ นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะขึ้น ถ่ายภาพยากแล้วล่ะ
กกก
ถ่ายภาพยืนยันว่านักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา เข้ามาทำกิจกรรมต่างๆกัน ส่วนใหญ่จะมีป้าย Study Tour ประกอบการถ่ายภาพ
ทางออกบังคับผ่านร้านค้าตลอดแนวต้องใจแข็งมากๆเดินผ่านตรงออกไปด้านนอกโดยไม่ดูสินค้าใดๆเลย สุดยอดมั๊ยคะ 555
หลุดรอดจากร้านค้าด้านในจนได้ เจอพี่ยิ่งพี่ตู่ด้านนอกกำลังซื้อลูกสละอินโดกันอยู่ อดไม่ได้ล่ะเราต้องซื้อไปชิมกันบ้างล่ะ จำราคาไม่ได้ เดี๋ยวค่อยไปซื้อใหม่ที่ร้านขายสละที่เป็นทางผ่านไปบุโรพุทโธ ราคาน่าจะดีกว่านี้
เข้าไปนั่งรอในห้องรับรองระหว่างรอสมาชิกคนอื่นๆที่เข้าไปในวัดปรัมบานัน ( Prambanan ) ชิมลูกสละที่ซื้อกันเพลินเลย อ้อ งานนี้มีงานอีกอย่างคือ เก็บเม็ดสละให้กับน้องตี๋ เค้าจะเอามาปลูกที่สุราษฎร์ธานีค่ะ เก็บเม็ดสละกันสุดๆ ทุกคนให้ความร่วมมือกันดีมากเลย
รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารไทย Yam Yam Restaurant ไม่ได้จองโต๊ะ โชคดีมากมาถึงมีโต๊ะว่างพอดีเลย พี่ตู่หาร้านอาหารอร่อยๆบรรยากาศดีๆ ให้เราตลอดเลย เจ้าของร้านเป็นคนไทย อาหารถ่ายได้ไม่ครบหรอกค่ะ อาหารที่อร่อยอีกอย่างก็คือ อูด้งต้มยำ ถ้าไปครั้งต่อไปอย่าลืมสั่งนะ เจ้าของร้านแถมของหวานให้ทานกันอีก.....
กลับถึงโรงแรม ตอนแรกตั้งใจว่าจะชมสินค้าย่านมาลิโอโบโร และขี่ม้าชมเมืองซักหน่อย แต่พอมาถึงจริงๆไม่ไหวง่วงนอนมากๆ ขอนอนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปเดินชมสินค้าก็ได้......
วันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ตื่นเช้าหลังทานอาหารเช้าที่โรงแรมก็ออกไปเดินชมสินค้า ได้กระเป๋าใส่ของใบเล็กๆมา 2 ใบ พ่อค้าบอกขายใบละ 45,000 รูเปียห์ ต่อรองกันง่ายๆ 2 ใบ 45,000 รูเปียห์ พ่อค้าให้ก็ต้องเอาล่ะซิ ใบละ 50 บาท...555 มีเวลาอีกก็เดินเลือกซื้อสินค้าตามร้านข้างโรงแรม ร้านค้าเปิดสายจังมีเพียงไม่กี่ร้านที่เปิดเช้า แต่สินค้ามีคุณภาพทั้งนั้น เช้านี้ก็ได้ Shopping อีกล่ะ....8 โมงกว่าๆ ร้านค้าเริ่มเปิดมากขึ้นเลือกซื้อกันวินาทีสุดท้ายล่ะ
พระราชวังสุลต่าน (Sultan หรือ Kraton Ngayogyakarta )
The Palace of Yogyakarta พระราชวังที่ใช้เป็นที่ประทับของสุลต่านประจำเมือง สร้างขึ้นในปี 1790 โดยมีการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ซึ่งมีการนำหลักของศาสนาฮินดูและวิถีชีวิตของคนชวานำมาสอดแทรกในทุก ๆ รายละเอียดต่าง ๆ เช่นการออกแบบประตูพระราชวังที่มี 9 ประตูเพื่อสื่อถึงทวารทั้ง 9 ของมนุษย์เป็นต้น นอกจากนี้ภายในยังมีการแสดงประวัติความเป็นมา และข้าวของที่ใช้ในพระราชวังแห่งนี้ให้ได้ชมกันอีกด้วย
พระราชวังสุลต่าน (Sultan หรือ Kraton Ngayogyakarta )
The Palace of Yogyakarta พระราชวังที่ใช้เป็นที่ประทับของสุลต่านประจำเมือง สร้างขึ้นในปี 1790 โดยมีการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ซึ่งมีการนำหลักของศาสนาฮินดูและวิถีชีวิตของคนชวานำมาสอดแทรกในทุก ๆ รายละเอียดต่าง ๆ เช่นการออกแบบประตูพระราชวังที่มี 9 ประตูเพื่อสื่อถึงทวารทั้ง 9 ของมนุษย์เป็นต้น นอกจากนี้ภายในยังมีการแสดงประวัติความเป็นมา และข้าวของที่ใช้ในพระราชวังแห่งนี้ให้ได้ชมกันอีกด้วย
ค่าเข้าชมคนละ 15,000 รูเปียห์ ประมาณ 34 บาท พร้อมมี Sticker ติดที่เสื้อคนละ 1 ใบและค่าถ่ายรูปในบริเวณพระราชวัง 1,000 รูเปียห์/กล้อง
ปราสาทเก่าแก่แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 18 โดยสุลต่านองค์แรกแห่งยอกยาการ์ต้า ซึ่งใช้เป็นที่พักตากอากาศรวมถึงนั่งสมาธิสงบจิตใจ โดยสถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้จะผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบชวาและศิลปะแบบตะวันตก เนื่องจากสุลต่านองค์ดังกล่าวได้เคยไปดูงานด้านสถาปัตยกรรมในแถบตะวันตกอยู่บ่อยครั้ง จึงเกิดเป็นแรงบันดาลในการสร้างปราสาทแห่งนี้ และเมื่อประมาณ 150 ปีก่อน ยอกยาการ์ต้าได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จึงทำให้โดยรอบปราสาทพังทลายลงไปมาก แต่บริเวณปราสาทชั้นในยังคงรักษาไว้ได้ตามสภาพ
ส่วนจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือบริเวณปราสาทชั้นในที่มีสระน้ำ 2 สระ คู่อาคารสูงทรงตะวันตกซึ่งเป็นที่ประทับของสุลต่านและยังเป็นสถานที่เลือกนางสนมที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในสระเพื่อเลือกไปรับใช้ในคืนนั้นด้วย โดยวิธีการคือสุลต่านจะโยนดอกไม้ลงมาหากนางสนมคนไหนรับได้ก็จะได้ไปรับใช้สุลต่า
ส่วนจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือบริเวณปราสาทชั้นในที่มีสระน้ำ 2 สระ คู่อาคารสูงทรงตะวันตกซึ่งเป็นที่ประทับของสุลต่านและยังเป็นสถานที่เลือกนางสนมที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในสระเพื่อเลือกไปรับใช้ในคืนนั้นด้วย โดยวิธีการคือสุลต่านจะโยนดอกไม้ลงมาหากนางสนมคนไหนรับได้ก็จะได้ไปรับใช้สุลต่า
ค่าเข้าชมคนละ 15,000 รูเปียห์
ร้าน Plentong Batik ผ้ามีคุณภาพดี ราคาเลยดีตามคุณภาพของผ้าราคาแต่ละชิ้นไม่ต่ำกว่า 1,000,000
รูเปียห์
ทางออกก็จะผ่านหมู่บ้านที่จำหน่ายสินค้าต่างๆ
ร้าน Plentong Batik ผ้ามีคุณภาพดี ราคาเลยดีตามคุณภาพของผ้าราคาแต่ละชิ้นไม่ต่ำกว่า 1,000,000
รูเปียห์
รับประทานอาหารกลางวันร้าน Ayam Goreng Suharti Jogja เป็นร้านแนวอินโดนีเซีย เลยล่ะค่ะ มีน้ำล้างมือพร้อมผ้าเช็ดมือให้พร้อมทานอาหารด้วยมือได้เลย ก็จะมีลูกค้าส่วนใหญ่จะทานด้วยมือ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น