ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 2 การเดินทาง ยอกยาการ์ตา-บุโรพุทโธ วันที่ 4-9 พฤษภาคม 2561

ตอนที่ 2 การเดินทาง ยอกยาการ์ตา-บุโรพุทโธ วันที่ 4-9 พฤษภาคม 2561
 
เมืองเมกาลังที่ตั้งบุโรพุทโธ แวะชิมสละรสชาดดี เข้าพักโรงแรมมโนฮารา ( Manohara Hotel)
ชมบุโรพุทโธ ชมพิพิธภัณฑ์ ชมวัดเมนดุท ( Mendut Temple) วัดพาวอน (Pawon Temple) ร้านบาติก
สนามบินอดิสุคิพโต (Adi Sucipto Airport) เมืองยอกยาการ์ตา  สนามบินซูการ์โนฮัตตา (Soekarno Hatta International Airport ) เมืองจาการ์ตา  สนามบินดอนเมือง  สนามบินสุราษฎร์ธานี
ตอนที่ 1 ตอนที่ 2
วันที่ 6-7 พฤษภาคม 2561
ระหว่างเดินทางไปมืองเมกาลังที่ตั้งบุโรพุทโธแวะชิมสละรสชาดดี ซื้อไปชิมเพิ่มเติมแนะนำสละ MADU กิโลละ 25,000 รูเปียห์ เนื้อหนามีรสหวานนิดๆ อีกแบบกิโลละ 7,000 รูเปียห์ เนื้อบางกว่านิดนึง พรุ่งนี้จะมาซื้อกลับไปเมืองไทย วันนี้ชิมให้อิ่มกันก่อน พร้อมกับเก็บเม็ดเอามาปลูกด้วย











เข้าพักโรงแรมมโนฮารา ( Manohara Hotel)
ที่อยู่: Borobudur, Magelang, ชวาเตงกะห์ อินโดนีเซีย
โทรศัพท์: +62 293 788131






Manohara Hotel อยู่ติดบุโรพุทโธเลย อัตราค่าห้องพักประมาณห้องละ 2,000,000 รูเปียห์ ประมาณ 4,500 กว่าบาท/ห้อง รวมตั๋วเข้าชมวัด Borobudur Temple ในช่วงเวลาทำการปกติ  ถ้าจะชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าก่อน 6.00 น. ต้องซื้อตั๋วเพิ่มราคาค่อนข้างสูง Afternoon Tea ตั๋วชมวิดีโอ Borobudur ถ้าไม่อยากชมในห้องนี้ สามารถชมได้ในห้องพักก็ได้ค่ะ และอาหารเช้า  พักที่นี่เราสามารถเดินไปชมได้ทั้งช่วงเย็น และเช้าของอีกวันคนไม่เยอะน่าจะเก็บภาพสวยๆได้พอสมควร ถือว่าคุ้มค่ามาก



ก่อนเดินไปบุโรพุทโธ เก็บภาพถ่ายบรรยากาศสวยๆของ Manohara Hotel มีมุมสวยๆส่วนใหญ่เค้าจะตกแต่งเป็นต้นไม้สีเขียว










บุโรพุทโธ (Borobudur)

มหาสถูปโบโรบูดูร์ หรือ บาราบูดูร์ คนไทยรู้จักในชื่อ บุโรพุทโธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอินโดนีเซีย บริเวณภาคกลางของเกาะชวา ตั้งอยู่ที่เมืองเมกาลัง ห่างจากยอกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1293 - 1393 โดยบุโรพุทโธเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ถ้าไม่นับนครวัดของกัมพูชาซึ่งเป็นทั้งศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและศาสนาพุทธ บุโรพุทโธจะเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในปี พ.ศ. 2534 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้บุโรพุทโธเป็นมรดกโลก


บุโรพุทโธสร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือ พุทธศักราช 1393 ตั้งอยู่บนที่ราบเกฑุ ทางฝั่งขวาใกล้กับแม่น้ำโปรโก สร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านตารางฟุตบนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 121 เมตร สูง 123 เมตร เป็นรูปทรงแบบปิรามิด มีลานเป็นชั้นลดหลั่นกัน 8 ชั้น และใน 8 ชั้นนั้น 5 ชั้นล่างเป็นลาน 4 เหลี่ยม 3 ชั้นบนเป็นลานวงกลม สามวงกลมยอดโดมกลางและบนลานกลมชั้งสูงสุดมีพระสถูปตั้งสูงขึ้นไปอีก 31.5 เมตร เป็นมหาสถูปที่ระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นกันไป มหาสถูปมีการตกแต่งด้วยภาพสลัก 2672 ชิ้น และ รูปปั้นพระพุทธรูป 504 องค์ โดมกลางล้อมรอบด้วย 72 รูปปั้นพระพุทธรูปแต่ละนั่งองค์อยู่ภายในสถูปเจาะรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ที่รอบล้อมสถูปเจดีย์ประธานด้านบนสุด

ในชั้นบนสุดของบุโรพุทโธ ที่ถือว่าเป็นส่วนยอดสุดของวิหาร มีลักษณะเป็นฐานวงกลมใหญ่ของเจดีย์องค์ประธาน เวลาที่มองมาจากที่ไกล จะเห็นเป็นเหมือนดอกบัวขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา ไม่พบภาพสลักใด ๆ ปรากฏอยู่เหมือนพ้นจากความต้องการทุกสิ่งทุกอย่าง มีผู้อุปมาภาพที่ปรากฏนี้ว่า แสดงถึงการหลุดพ้นจากทุกสรรพสิ่งในโลก หรือที่เรียกว่านิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ

บุโรพุทโธเริ่มเป็นที่รู้จักของรัฐสยามหรือรัฐไทยเริ่มในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ทั้งด้านอาณาจักรและพุทธจักรก็ได้มีการเชื่อมสัมพันธ์ต่อกัน จนเป็นที่ยอมรับว่าบุโรพุทโธได้รับการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลและชาวอินโดนีเซียประเทศมุสลิมอันดับหนึ่งของโลก

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/
















































ประมาณ 17.30 น.เค้าให้นักท่องเที่ยวออกจากบุโรพุทโธ นักท่องเที่ยวทั่วไปจะออกทางด้านหน้า สำหรับคนที่พัก Manohara Hotel พอเราบอกเจ้าหน้าที่เค้าก็ให้เราเดินย้อนมาที่ทางออกเล็กๆ 


รับประทานอาหารเย็นและ Afternoon Tea ที่โรงแรม





วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 เช้ารีบเตรียมพร้อมไปบุโรพุทโธ ยามเช้าอีกคร้ัง




ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนเดินขึ้นบุโรพุทโธ มาช่วงเช้าคนน้อย เราจะมาถึงก่อนเพราะที่พักที่ Manohara Hotel เดินไม่ถึง 2 นาทีก็ถึงทางขึ้นแล้วค่ะ เช้านี้คงเก็บภาพที่มีปัญหาเมื่อวานตอนเย็นที่ถ่ายไม่ได้เพราะคนเยอะมากได้ล่ะ








































ตรงชั้นบนสุด เจ้าหน้าที่จะถามว่ามาจากประเทศไทยหรือไม่ แล้วก็แนะให้เดินวนขวา 3 รอบ เค้าพยาามพูดภาษาไทยว่าเดิน 3 รอบบ (เดินตามเข็มนาฬิกา น่ะค่ะ) 































เดินไปชมพิพิธภัณฑ์










พักที่ Manohara Hotel เราไม่ต้องเดินผ่านไปทางร้านขายสินค้า ขากลับเดินผ่านบุโรพุทโธ ได้เก็บภาพมุมกว้างหลายภาพเลยค่ะ




ระหว่างนั่งรอเวลาเดินต่อที่ Lobby โรงแรม


มีเวลานิดหน่อยเก็บภาพสวยๆเป็นที่ระลึก








แวะถ่ายภาพที่  Camera House ถ่ายแต่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปถ่ายด้านในหรอกค่ะ







วัดพาวอน (Pawon Temple)
วัดพาวอน เป็นหนึ่งในวัดทางพระพุทธศาสนา และห่างครึ่งกิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกจากวัดเมนดุด และไปทางทิศตะวันออกจากบุโรพุทธโธ รายละเอียดของประติมากรรมในวัดพาวอน เป็นจุดเริ่มต้นของประติมากรรมของบุโรพุทธโธ


ที่วัดพาวอน มีกิจกรรมสนุกๆ เรื่องการซื้อของกันค่ะ แม่ค้าขายเก่งมากบอกครั้งแรกก็จะแพงมาก ซักพักก็จะเพิ่มเป็น 2 3 4 5 6 ชิ้น ถ้ายังไม่ซื้อก็รอนาทีทองตอนที่เราขึ้นรถจะได้ราคาถูกสุดๆ......ใครใจแข็งพอก็รอนาทีทองตรงนี้แหละค่ะ...เวิร์คสุดเลย


ใครสนใจดื่มชาขี้ชะมดเชิญได้นะคะ 




















 ชมวัดเมนดุท ( Mendut Temple)
วัดเมนดุด จะเก่าแก่กว่า บุโรพุทธโธ (Borobudur) โดยภาพแกะสลักจะกล่าวถึงเรื่องราวของพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ห่างจากบุโรพุทธโธ (Borobudur) ไปทางทิศตะวันออก 3 กิโลเมตร เป็นวัดในพุทธศาสนาที่สร้างขึ้นในปี 824 โดยกษัตริย์ Indera ของ ราชวงศ์ Sailendra ภายในมีรูปปั้นขนาดใหญ่ 3 ชิ้น ได้แก่
พระศักยมุนี นั่งในท่าขัดสมาธิ โดยมืออยู่ในท่าหมุนพระธรรมจักร
พระอวโลกิเตวรา เป็นสัญลักษณ์ของผู้ช่วยเหลือสัตว์มนุษย์ สวมมงกุฎ ถือดอกบัวสีแดงวางลงบนฝ่ามือ
พระศรีอริยเมตไตร พระผู้ช่วยให้รอด











ที่นี่ก็เช่นกันต้องฝ่าฟันกับกองทัพแม่ค้าที่ขายสินค้าชนิดต่างๆ มีการเพิ่มจำนวนสินค้า 12345678 ตามระยะเวลาที่นักท่องเที่ยวขึ้นรถ ก็จะยังไม่ยอมแพ้เดินวนรถ จนต้องมีคนใดคนนึงใจอ่อน.....555





รับประทานอาหารกลางวัน บรรยากาศดี มีร้านขายผ้าบาติก และของที่ระลึกต่างๆ...ให้ชมหลากหลายอยู่ค่ะ 



ระหว่างเดินทางกลับแวะซื้อลูกสละอินโด แวะร้านบาติกที่ร้าน Batik Tirto Noto (อีกสาขา) แวะ Outlet 
แวะบาติกอีกร้าน ซื้อผ้าบาติกกันสนุกสนานเชียวค่ะ เอเงินรูเปียห์เราก็เหลืออีกพอสมควรจะทำไงดีน้า สงสัยจะต้องมาอีกละมั๊งนี่....

เข้าพักที่โรงแรม Rumah Mertua Boutique Hotel & Garden Restaurant & Spa 

ที่อยู่: Jl. Palagan Tentara Pelajar, Gang Padma No.5, Sariharjo, Kec. Sleman, Kabupaten Sleman, Daerah Istimewa Yogyakarta 55581 อินโดนีเซีย
โทรศัพท์: +62 274 866680



รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม อาหารเช้าเราก็ต้องสั่งไว้ล่วงหน้า

วันที่ 8  พฤษภาคม 2561

พร้อมเดินทางกลับเมืองไทยแล้ว พี่ตู่บอกว่าทาง Air Asia อีเมล์มาบอกว่าเที่ยวบิน QZ7553 เครื่องดีเลย์
เลยมีเวลา Shopping ผ้า Batik ร้านที่อยู่ใกล้ๆสนามบินกันอีกซัก ครึ่ง - ชั่วโมง
























เที่ยวบิน QZ7553 เครื่องดีเลย์จากเวลาเดิม จากสนามบินอดิสุคิพโต (Adi Sucipto Airport) 11.35 ถึง สนามบิน Soekarno Hatta International Airport เมืองจาการ์ต้า เวลา 12.40 น. เป็น 13.35 - 14.30 - 15.10 เลื่อนเวลาไปเรื่อยๆ ใจเสียล่ะซิพวกเรา ตกเครื่องจากจาการ์ต้า ไปดอนเมืองแน่ๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าเค้าจะอีเมล์ไปที่ Supervisor ที่จาการ์ต้าให้เค้าจะรับผิดชอบ และบอกว่าไปถึงให้เราไปแจ้งที่ Customer Service ของ Air Asia เค้าจะให้ความช่วยเหลือ เมื่อไปถึง สนามบิน Soekarno Hatta International Airport เมืองจาการ์ต้า เครื่องบินดีเลย์ทาง Air Asia บริการอาหารว่างฟรีให้ทุกคนค่ะ แลกกับใจเสียกลัวตกเครื่อง 555 พอไปถึงสนามบิน Soekarno Hatta International Airport มีเรื่องน่าตื่นเต้นต่อเนื่อง เพราะถ้าเป็นเวลาปกติตกเครื่องแน่ๆ ถ้าสายการบินไม่รอ เพราะไปถึงก็ 16.50 แล้วเป็นเวลา Boarding Time แล้วขณะนั้นเราอยู่ Terminal 2 ต้องนั่งรถ Skytrain ไป Terminal 3 พี่ตู่กับน้องมลรีบวิ่งไปถามเจ้าหน้าที่ Air Asia โชคดีมากที่เครื่องไปดอนเมืองเที่ยวบินที่ QZ252 ก็ดีเลย์เหมือนกัน เย้ๆๆ มีเวลา.....ได้เวลาหาทางไปขึ้น Skytrain ไป Terminal 3 กัน.....เดินตรงไปทางออก ทางขวา ข้ามถนน ทางขวา ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ดูป้ายดีๆนะคะ Terminal 3 ขึ้นรถอีกด้านกับ Terminal 1 เมื่อมาถึง Terminal 3 ดูป้ายที่ไปทาง International Departure เพื่อผ่าน ตม. และ Scan กระเป๋าสัมมภาระ......เดินไปที่ Gate เดินไกลมาก พอไปถึงหายเหนื่อยเลยล่ะค่ะ มีอาหารมื้อเย็นจากสายการบินแจกอีก เพราะเครื่องดีเลย์.......ประหยัดมื้อเย็นอีก  1 มื้อ เดินทางถึงสนามบินเมือง พักผ่อน รอเดินทางกับสุราษฎร์ธานี สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7208 โดยสวัสดิภาพ...See you next trip... 




ขอนำเสนอผ้าบาติก...ส่วนนึงนะคะ......













ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ