ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 5 ทัวร์ยุโรป & ทริปสแกนดิเนเวีย ( 5-17 เมษายน 2562 ) สวีเดน-เดินทางกลับ

ตอนที่ 5 ทัวร์ยุโรป & ทริปสแกนดิเนเวีย  ( 5-17 เมษายน 2562 ) สวีเดน-เดินทางกลับ

ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5

วันที่ 15 เมษายน 2562
เวลา 10.30 น. เดินทางถึงท่าเรือ Ferry เมืองสตอกโฮม ประเทศสวีเดน มีรถบัสเช่า มารอรับไปส่งที่พัก Rygerflord Hotel&Hostel สตอกโฮล์ม (Stockholm) เมืองหลวงของประเทศสวีเดน เป็นเมืองใหญ่ที่น่าเที่ยวที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป เป็นเมืองหลวงที่สะอาดที่สุดในโลก สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงแห่งแรกที่ได้รับรางวัล “เมืองหลวงสีเขียวแห่งแรกของยุโรป” ในปี ค.ศ. 2010


Rygerfjord Hotel & Hostel ตั้งอยู่ในเรือทอดสมอ 3 ลำที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของ Lake Mälaren ใน Stockholm มีอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี และห้องพักสไตล์เคบินพร้อมวิวเมืองและวิวทะเลสาบ
ผู้เข้าพักสามารถเลือกห้องพักที่กระจายอยู่ในเรือ 3 ลำ โรงแรมตั้งอยู่ห่างจาก Old Town และย่านที่ทันสมัยของ Stockholm โดยใช้เวลาเดิน 10-20 นาที













เมื่อได้กุญแจห้องพักกันเรียบร้อยก็จะมีรหัสเปิดประตูรั้ว รหัสผ่าน WIFI ให้ด้วย ที่พักก็จะกระจายกันทั้ง 3 ลำ อยู่ชั้นใต้ติน ชั้น 1-2-3 ลักษณะห้องก็หลากหลาย แต่ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันก็คือช่วยกันลำเลียงกระเป๋าขึ้นไปแต่ละชั้น ทั้งหนุ่มสาว สาวน้อยสาวมาก ช่วยกันเต็มที่น่ารักกันจริงๆ กว่าจะลำเลียงกันเสร็จเรียบร้อยหมดแรง ขอเวลาพักแป๊บ เตรียมความพร้อมกองทัพเดินด้วยท้องนำเสบียงที่เตรียมไว้มาทานก่อน เพราะเดี๋ยวเราจะเดินไป Old Town


ห้องพักสำหรับ 2 คน น้องกิต กับพี่จุก ต้องประหยัดพื้นที่การนอนสุดๆ เลยค่ะ






ส่วนห้องน้าวัชหรูมากอยู่หัวเรือ มีห้องนั่งเล่นด้วย พวกเราก็ไปรวมพลกันห้องน้าวัชกัน ชมวิวได้ชัด สวยงามมากค่ะ





ประมาณบ่ายโมงครึ่ง ได้เวลาเดินชมเมืองกันแล้ว ขอบอก...เวลาเดินต้องระวัง Lane รถจักรยานด้วยนะคะ เดินไปถ่ายภาพไป เดินกันไปเรื่อยๆ คนอื่นเดิน 15-20 นาที พวกเราใช้เวลาเกิน ครึ่งชั่วโมงแน่ๆ ไม่ใช่เดินไม่ไหวหรอก Take Photoes ตลอดทาง น้องเป๊กหัวหน้าทีมดินนำหน้าพวกเราก็เดินตามๆกัน เดินลอดใต้สะพานทางเดินต้องระวังทั้งรถยนต์และรถจักรยาน
  







































Stockholm Royal Palace หรือในภาษาสวีดิชจะเรียกว่า Stockholms Slott นั้นตั้งอยู่ที่ Gamla Stan ในเขตเมืองเก่าโดยห่างจากตัวเมืองหลักในปัจจุบันด้วยการเดินด้วยเท้าเพียงเเค่ 20 นาทีก็จะถึงเเล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นพระราขวังหลักของราชวงศ์สวีเดน ที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามอย่างมาก เพราะทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เเละใครที่มาเที่ยวสตอกโฮล์ม มักจะมาเที่ยวชมความสวยงามของพระราชวังเเห่งนี้











พระราชวังกรุงสตอกโฮล์ม นั้นสร้างมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 17 โดยตัวอาคารนั้นมีความสูงกว่า 7 ชั้น เเละมีห้องอยู่ทั้งหมดกว่า 600 ห้อง โดยมีห้องเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมกัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมความสวยงามในส่วนของ Royal Apartments ที่จะมีห้อง Cabinet Room ซึ่งเป็นห้องประชุมของกษัตริย์กับบรรดารัฐมนตรีของพระองค์ ส่วนที่ Hall of State นั้นนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามของบังลังก์เงิน ซึ่งเป็นของราชินีคริสติน่า ที่ปกครองสวีเดนในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยในโซนของ Bernadotte Gallery นั้นจะเป็นโซนภาพวาดของบรรดาสมาชิกราชวงศ์สวีเดนตั้งเเต่อดีตที่ป่านมา โดยจุดที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมให้ได้ก็คือ Treasury ที่เป็นห้องใต้ดินที่เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่มีทั้ง มงกุฎ อ่างน้ำมนต์ที่ทำจากเงิน เเละดาบ ภายในของ Stockholm Royal Palace นั้นมีพิพิธภัณฑ์อยู่สองเเห่งด้วยกันทั้งในส่วนของ Gustav III’s Museum of Antiquities ซึ่งจะมีประติมากรรมสไตล์อิตาเลียนกว่า 200 ชิ้นที่จัดเเสดงเอาไว้ เเละจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ส่วนพิพิธภัณฑ์ Tre Kronor นั้นจะเป็นการจัดเเสดงเรื่องราวของเหตุการณ์ไฟไหม้พระราชวังในปี ค.ศ.1697 ก่อนทีจะการสร้างใหม่ในจุดเดิม เเละอีกหนึ่งสิ่งที่ใครมาเที่ยวพระราชวังกรุงสตอกโฮล์มเเล้วต้องไม่พลาดก็คือ การเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์สวีเดนที่จะใช้เวลาในการเปลี่ยนเวรยามประมาณ 40 นาที เเละบางครั้งจะมีทหารม้ามาร่วมพิธีอีกด้วย





































ระหว่างเดินก็เจออุปสรรคทางที่เราเดินไปเจอการประท้วง ปิดถนนไม่ยอมให้ผ่านทาง พวกเราต้องเดินอ้อมไปอีกไกลโข












หลักเดินทางไหนก็ได้ บรรยากาศดีทั้งนั้น เดินไปถ่ายรูปไปเพลินๆ เป้าหมายต่อไปคือการ Shopping หาร้าน กระเป๋าเป้ KanKen (คองเก้น) จากสวีเดน กระเป๋าวัยรุ่นสุดฮิต ! จากกระเป๋ายี่ห้อ “Fjällräven” (ฟยัล-รา-เว่น) รูปสุนัขจิ้งจอกเป็นโลโก้ https://www.fjallraven.com/
หลังจากอกหักจากปารีสที่ไม่ได้ซื้อกระเป๋า Longchamp https://www.longchamp.com/ 














กลับที่พัก ขากลับไม่เดินกลับแล้วล่ะ กลับรถไฟไต้ดิน ก่อนกลับแวะซื้อของสำหรับมือเย็นและพรุ่งนี้เช้าที่ Supermarket (กล้วย น้ำ นม ขนมปัง) หมดเงินไปแค่  60 SEK ประมาณ 200 กว่าบาท แลกเงิน SEK แค่ 20 ยูโรประมาณ 180 SEK  กลับมาถึงที่พัก พี่ตู่ พี่ยิ่ง น้องเตี้ยมชวนไปเดินเล่นไม่ไหวแล้วค่ะวันนี้ปวดเมื่อยไปทั้งตัวขอพักแป๊บ มาขอนั่งเล่นห้องน้าวัชดีกว่า ได้ใช้เน็ตน้าวัชด้วย เน็ตโรงแรมช้ามาก เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินอยากจะไปถ่ายภาพก็ไม่ไหวแล้วล่ะเก็บภาพความทรงจำจากสายตามแล้วกัน และแล้ววันนี้ก็พลาด ซื้อน้ำเปล่าได้น้ำโซดา กะจะมาต้มน้ำห้องน้าวัชไว้ชงกาแฟพรุ่งนี้ ต้องใช้น้ำก๊อกต้ม พี่แจ้ช่วยทำแซนวิชจากขนมปังที่ซื้อให้ด้วยขอบคุณมากค่ะพี่แจ้...อาหารเช้าพรุ่งนี้พร้อมแล้ว...ก่อนกลับไปพักผ่อนที่ห้องขอถ่ายภาพวิวกลางคืนก่อนซัก 2-3 ภาพ  ผิดคาดกลับไปที่ห้องเน็ตเร็วมาก.....ถือโอกาสอับโหลดภาพจากมือถือไปเก็บใน Google Photo






วันที่ 16 เมษายน 2562
ตื่นเช้าทานอาหารเช้าที่เตรียมไว้ ออกไปถ่ายภาพบรรยากาศยามเช้า ขนกระเป๋าของตัวเองและของพี่จุกลงไปไว้ด้านล่างก่อนเช้าๆพลังงานเยะอยู่ เกรงใจพี่ๆ พอจะเอาลงมาได้ จากนั้นก็ไปนั่งเล่นห้องน้าวัชอีก แสงสวยมากถ่ายภาพออกมาเหมือนอยู่ในสตูดิโอเลยค่ะ









เช้านี้จัดเครื่องแต่งกายเบาที่สุด เช้าๆก็หนาวสุดๆ ทนๆๆๆ เดี๋ยวเข้าไปอยู่ในสนามบินก็ไม่หนาวแล้วแต่ก็ไม่ประหมาดเตรียมเสื้อกันหนาวใส่เป้ไว้ด้วย


























08.00 น. เดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติสตอกโฮล์ม-อาร์ ลันดา (Stockholm-Arlanda Airport) เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เค้าให้ Check in one by one โดย Check Through รับกระเป๋าที่สนามบินสุวรรณภูมิเลยค่ะ เมื่อผ่านด่าน ตม.เรียบร้อย สิ่งแรกที่ต้องรีบที่สุดคือ เงิน SEKที่มีเหลือต้องรีบละลายทรัพย์ อิอิ การซื้อของ Duty Free อย่าลืมแสดง Boarding Pass ด้วยนะคะ

กำหนดเดิม 10.15 น. เดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเมาเดดาว่า (Domodedova International Airport) เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ361 (น้ำหนักกระเป๋า 30 Kg) ใช้เวลาบินประมาณ 2 .10 ชั่วโมง มีบริการอาหารบนเครื่องบิน มีเมนูให้เราดูก่อนล่วงหน้า เพื่อเปลี่ยนเครื่อง เครื่องบิน Delay ประมาณ 1  ชั่วโมง กว่าจะได้ออกก็ 11.15 น. ช่วงนี้ก็นั่งเล่นเน็ตฟรีของสนามบินไปพลางๆ รอเวลา...













เมื่อถึง มอสโกทุกคนจะต้องลงเครื่องพร้อมสัมภาระติดตัวทั้งหมด เดินผ่าน Scan สัมภาระ และก่อนขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มอีกครั้ง ตรวจเช็คหน้ากับพาสปอต ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อคนใช้เวลาช้ามากกก

15.05 น.เดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ361 ใช้เวลาบินประมาณ 10.30 น. มีบริการอาหารบนเครื่องบิน มีเมนูให้เลือกก่อนล่วงหน้า










ดูจาก  Flight Information ก็รู้แล้วว่าเราตกเครื่องแน่ๆ เพราะ Estimated Arrive Time at Singapore 7.14 น.ซึ่งตามกำหนดเครื่องจะออกจากสนามบิน Changi ไปประเทศไทยเวลา 7.10 น.











ระหว่างนั่งบนเครื่องก็พยายามศึกษา Arrival Informtion ไว้ด้วยค่ะ ว่าเราไปถึงช้ากว่ากำหนด 1 ชั่วโมง













วันที่ 17 เมษายน 2562
เนื่องจากเครื่องบินดีเลย์ไปประมาณ 1 ชั่วโมงทำให้ถึงท่าอากาศยานนานาชาติชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์ ช้ากว่าปกติชั่วโมงกว่าเลยล่ะค่ะ  ไม่อยากจะบอกว่าพอเครื่อง Landing พวกเราก็รีบวิ่งเพื่อไปที่ Gate เพื่อเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport) โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ970 พอมาถึงเจ้าหน้าที่สายการบินมารอรับพวกเราอยู่เพื่อจะแจ้งว่าพวกเราตกเครื่อง ต้องรอไปการบินไทยช่วยบ่ายสามโมง และจะเปิดโรงแรมให้พวกเราพักก่อนขึ้นเครื่อง มีอาหารเช้าและอาหารกลางวันให้ ช๊อคกันเลยซิพวกเรา ปัญหาอีกต่อก็คือจากกรุงเทพ สุราษฎร์ธานี ซึ่งเราได้จองไว้แล้วกับสายการบินนกแอร์เที่ยวเที่ยงครึ่ง ทางสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์รับผิดชอบส่วนนี้ด้วย แต่ให้เราจัดการจองตั๋วเองแล้วค่อยยื่นหลักฐานขอคืนเงินในภายหลัง  เจ้าหน้าที่นำพวกเรามา Check in กับการบินไทยมีรถกอล์ฟมารับสำหรับ 2 คันสำหรับคนที่ไม่สะดวกในการเดิน ส่วนที่เหลือก็เดินและขึ้นรถ SkyTrain ได้ Boarding Pass กันเรียบร้อย และต้องเขียนใบ Immigration Form เพื่อผ่าน ตม. เข้าประเทศสิงคโปร์ก่อน จากนั้นก็มีรถกอล์ฟ 4 คันมารับไปส่งที่ ด่าน ตม. ผ่านด่านเสร็จเรียบร้อยก็เดินต่อไปยังโรงแรม



รับประทานอาหารเช้า พักผ่อนกันที่โรงแรม  และรับประทานอาหารกลางวัน
















ข้อเสนอแนะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศนอกจากจะมีเงินสดติดตัวสกุลเงินสากลแล้ว มีบัตรเครดิตติดตัว ก็ยังไม่พอ เพราะถ้าเรามีความจำเป็นต้องจองตั๋วหรือต้องใช้บัตรเครดิตออนไลน์ ถ้าเราไม่สามารถรับ
รหัส OTP ได้เราก็ไม่สามารถยืนยันรหัสการใช้ได้ โชคดีนะได้รับการช่วยเหลือจากน้องแป๊กหัวหน้าทัวร์ นอกจากนี้น้องเค้ายังถือ NoteBook ไปด้วยทำให้การจองสะดวกขึ้นมากเลย ขอบคุณนะคะ.....ทำให้พี่ๆ
มีตั๋วกลับสุราษฎร์ธานี อีกอย่างที่ควรนำไปอาจะอยู่ในรูปแบบเอกสาร และหรือรูปแบบไฟล์ เผื่อมีความจำเป็นต้องใช้จะได้เปิดมาใช้งานได้ และที่ลืมไม่ได้ก็คือการทำประกันการเดินทาง

เสร็จภาระกิจต่างๆเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่จะต้องเข้าไปในสนามบิน วุ่นวายกันนิดนึงคือช่วงที่ต้องผ่าน ตม.ระบบอัตโนมัติ โดย Scan หน้าพาสปอต และเข้าไปสแกนนิ้วมือ ของใครมีปัญหาก็จะต้องไปใช้ช่องผ่านปกติ จุดนี้ใช้เวลานานพอสมควร Gate อยู่ไกลสุดต้องทั้งวิ่งและเดินก็ใช้เวลาเกือบ 15 นาที และแล้วก็ทันขึ้นเครื่องทุกคน เย้ๆๆๆๆๆ











ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นั่งรถ Shuttle Bus ไปยังสนามบินดอนเมือง เดินทางต่อไปยังสนามบินสุราษฎร์ธานี โดยสวัสดิภาพ

สรุปค่าใช้จ่าย




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ