ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 4 บันทึกการเดินทางฮ่องกง เซินเจ้น จูไห่ มาเก๊า วันที่ 8-12 ต.ค.55

บันทึกการเดินทางฮ่องกง เซินเจ้น จูไห่ มาเก๊า วันที่ 8-12 ต.ค.55

วันที่ 7-8 ตุลาคม 2555 เดินทางถึงสนามบินฮ่องกง
วันที่ 9 ตุลาคม 2555 โอซีทีอีสท์เซินเจิ้น มาบุญครองเชินเจิ้น
วันที่ 10 ตุลาคม 2555 หวีหนี่ วัดไป๋เหลี่ยน ตลาดกงเป่ย จูไห่
วันที่ 11 ตุลาคม 2555 ร้านผ้าไหม ตลาดกงเป่ย มาเก๊า
วันที่ 12 ตุลาคม 2555 มาเก๊า ฮ่องกง
วันที่ 11 ตุลาคม 2557 หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ไปเยี่ยมชมโรงงานผ้าไหม ที่โรงงานผ้าไหมจะมีกระบวนการผลิตเส้นไหมจีน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่เริ่มเลี้ยงดูตัวไหม ไปจนถึงกระบวนการสุดท้ายที่นำเส้นไหมที่ได้มาถักทอเป็นผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากไหมจีนนานาชนิด อาทิ ไส้ผ้าห่มที่ทำจากเส้นใยไหม, ชุดเครื่องนอน, เสื้อผ้า (มีทั้งของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง), ผ้าพันคอ, ฯลฯ ลักษณะพิเศษที่สำคัญของไหมจีน ก็คือเวลาสวมใส่จะสบาย ลื่นดี เวลาอากาศร้อนไหมจีนจะเย็น เวลาหนาวไหมจีนจะให้ความอบอุ่น ทำให้ผู้สวมใส่สบาย แต่ว่าครูกิติมา ไม่ได้ซื้อผ้าไหมเลยได้ซื้อครีมบำรุงผิวแทนเป็นของฝากได้ซื้อมา 6 ขวด คณะที่มาส่วนใหญ่จะซื้อผ้านวมไหม ทั้งซื้อทั้งแถมถ้าใครตัดสินใจซื้ออย่าใจร้อนนะคะ ต่อรองราคาด้วยนะคะ



















หลังจากเยี่ยมชมโรงงานผ้าไหมเสร็จแล้วก็ไป Shopping ที่ “ตลาดกงเป่ย” เมื่อวานที่ซื้อของได้ไม่ครบต้องตัดสินใจซื้อวันนี้แล้วล่ะ เงินหยวนที่แลกมากก็ใช้ที่นี่แหละค่ะ เพราะไปมาเก๊า และ ฮ่องกง เราใช้เงินฮ่องกงดอลล่าแล้วล่ะ ว่าแล้วก็ได้ Shopping กันเวลาอันรวดเร็วได้ของอีกเยอะ กระเป๋าเกือบจะออกลูกออกหลานแล้วล่ะ และครูกิติมา ยังเอาอยู่ในกระเป๋าใบเดียวค่ะ แต่ว่าของน้องฟ้านี่ซิเริ่มๆจะเอาไม่อยู่แล้ว ขอบอกไว้เลยนะคะ จากจูไห่จะไปมาเก๊า ตรงด่านจูไห่สุดจะโหดเลยค่ะต้องขึ้นบันได บันไดเลื่อน และเดินไกลเชียว ดีไม่ดีอาจเกิดอุบัติเหตุได้นะคะ พยายามเก็บสัมภาระให้กระทัดรัดที่สุดเลยนะคะ ขนาดกระเป๋าครูกิติมาใบเดียว ยังแทบแย่เลย จากนั้นก็เข้าสู่ มาเก๊า...


มาเก๊า อยู่ในเขตมณฑลกวางตุ้ง บนชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของสามเหลี่ยม ปากแม่น้ำเพิร์ล ในอดีตมาเก๊าตกเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสนานถึง 400 ปี และกลับคืนสู่การปกครองของจีนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1999 "มาเก๊า" นับเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ ในอดีตมาเก๊าเป็นเพียงแค่หมู่บ้านเกษตรกรรมและประมงเล็กๆ โดยมีชาวจีนกวางตุ้งและฟูเจี้ยนเป็นชนชาติดั้งเดิม จนมาถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ชาวโปรตุเกสได้เดินเรือเข้ามายังคาบสมุทรแถบนี้เพื่อติดต่อค้าขายกับชาวจีน และมาสร้างอาณานิคมอยู่ในแถบนี้ ที่สำคัญคือ ชาวโปรตุเกสได้นำพาเอาความเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมของชาติตะวันตกเข้ามาอย่างมากมาย ทำให้มาเก๊ากลายเป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว จนสามารถเรียกได้ว่าเป็น "ยุโรปใจกลางเอเชีย" อันมีเสน่ห์เย้ายวนใจให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเยือนมาเก๊ากันเป็นจำนวนมาก

มาเก๊าใช้สกุลเงิน ปาตาการ์ (MOP$) 1 ปาตาการ์ จะแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้ 100 อาโวส (AVOS) ตามธนาคารและร้านรับแลกเงินไม่ค่อยมีเงินมาเก๊าให้แลก หรือถ้ามีให้แลกอัตราแลกเปลี่ยนจะไม่ค่อยดี แต่ว่าเราสามารถใช้เงินฮ่องกงดอลล่าร์ (HKD) ที่มาเก๊าได้ครับ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม รถเมล์ เรือ Ferry รับเงินฮ่องกงหมดครับ โดยร้านค้าจะถือว่า 1 MOP = 1 HKD แต่จริงๆ แล้ว 103.2 MOP = 100 HKD นั่นก็แปลว่าเราอาจจะขาดทุนนิดหน่อยถ้าจ่ายด้วยเงิน HKD ส่วนการทอนเงินก็อาจจะทอนมาเป็นปาตาการ์หรือฮ่องกงดอลล่าร์

ระหว่างทางที่จะไปสู่บสถ์เซนต์ปอลจะผ่านย่านการค้าสำคัญของมาเก๊า เซนาโด้สแควร์ ซึ่งโดดเด่นด้วยพื้นถนนปูลาดด้วยกระเบื้องลอนคลื่น้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์์โปรตุเกส ได้เดินเที่ยวและแวะซื้อสินค้า ครูกิติมา กับน้องฟ้าซื้อ ทาร์ตไข่ มาทานกันอร่อยดี




















ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจัดว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของมาเก๊าและเป็นสถานที่ถ่ายภาพยอดนิยมมากที่สุด สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ของโบสถ์แห่งนี้คือประตูโบสถ์และบันไดทางขึ้นที่ตั้งเด่นอย่างสง่างาม โบสถ์เซนต์ปอลสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1580 และได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากไฟไหม้ในปีค.ศ. 1835 ประตูโบสถ์ที่หลงเหลืออยู่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นการผสมผสานองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรมทั้งสไตล์จีนและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม และได้บูรณะขึ้นมาใหม่ปี ค.ศ.1991 จุดนี้พวกเราก็พร้อมใจกันถ่ายรูปกันซะเยอะเลยนะ ถึงแม้จะเริ่มร้อนแล้วก็ตาม











หลังจากนั้นทางคณะก็เดินไปขึ้นรถเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน และเดินทางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง (Kun Iam Statue) ที่ตั้งอยู่ริมทะเล เจ้าแม่กวนอิมองค์ทองสร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ มีความสูง 18 เมตร หนักกว่า 1.8 ตัน ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัวดูงดงามอ่อนช้อย ภายในฐานรูปปั้นจะเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงประวัติความเป็นมา ตลอดจนวัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง สะท้อนกับแดดยามเย็นเป็นประกายเรืองรองเหลืองอร่ามงดงามจับตา เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้เป็นเจ้าแม่กวนอิมลูกครึ่ง คือปั้นเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิม แต่ว่ากลับมีพระพักตร์เป็นหน้าพระแม่มารี ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า ในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน เพื่อที่ว่าคนรุ่นหลังเห็นแล้วจะได้ระลึกถึงว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่โปรตุเกสมอบให้กับมาเก๊า และภายใต้ฐานรูปปั้นยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงถึงประวัติความเป็นมาอีกด้วย












จากนั้นก็ไปยังร้านขายของฝากและเยี่ยมชม VENETIAN MACAU RESORT โรงแรมสุดหรูเลิศอลังการในบรรยากาศลาสเวกัส และได้ชมท้องฟ้าจำลองเสมือนจริง มีร้านอาหารและสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายกว่า 300 ร้าน และมีล่องเรือกอนโดล่า CONDOLA ต้องจ่ายเองนะคะ 120 เหรียญ แยกย้ายกันเดินเยี่ยมชมพื้นที่บริเวณ VENETIAN ของเยอะจริง

 













เดินกันจนเหนื่อยก็มานั่งพักผ่อนบริเวรณ FOOD COURT เพื่อรอเวลานัดพบกันเพื่อไปทานอาหารเย็นและเข้าพักที่โรงแรม ลองเดินเข้าไปบริเวณคาสิโน นิดหน่อยกลิ่นบุหรี่เยอะมากต้องรีบออกมา ซึ่งไม่อนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปภายในคาสิโน และไม่อนุญาตทำการบันทึกภาพใดๆภายในคาสิโนทั้งสิ้นและควรแต่งกายสุภาพ




สำหรับบางคณะยังฟิตจัดให้ไกด์นำเที่ยวคาสิโนภาคค่ำอีกนะนี่ แต่ครูกิติมาขอพักผ่อนแล้วล่ะ จบการท่องเที่ยวอีก 1 วัน คืนนี้พักผ่อนเต็มที่ พรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปฮ่องกงทาง FERRY ต้องจัดของให้อยู่ในกระเป๋าใบเดียวเพราะต้องถือกระเป๋าเดินทางเองไปขึ้น FERRY ย้ำๆๆ นะคะ Good Night สำหรับคืนนี้นะคะ

พบกันใหม่ ต่อนที่ 5 วันสุดท้ายของการเดินทาง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ