ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 3 ท่องเที่ยวดาร์จีลิ่ง สิกขิม ประเทศอินเดีย

ตอนที่ 1 ตอนที่ 2  ตอนที่ 3


วันที่ 2-10 พฤษภาคม 2558


ตอนที่ 3

วันที่ 8 พฤษภาคม 2558
กังต๊อก ทะเลสาบฌางโก

เตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง ทดสอบกล้องหน้าโรงแรมกันก่อนเดินทางซะหลายแชะ 555 




วันนี้เปลี่ยนรถเป็นคันใหม่อีกแล้วค่ะ



 ออกเดินทางสู่ทะเลสาบฌางโก มีความสูง 3,774 เมตร ระยะทาง 34 Km ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไกด์นำคณะไปยื่นเอกสาร ระหว่างนี้ได้ถ่ายภาพยอดเขาคันชังจุงก้า ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของโลก กลางเมืองกังต๊อก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนกว่าที่ดูกว่าดาร์จีลิ่งซะอีก




 เดินทางไปซักแป๊บต้องยื่นเอกสารผ่านด่านเข้าชมทะเลสาบฌางโก ต้องยื่นพร้อมพาสปอตและเอกสารอนุญาตเข้าสิกขิมด้วย รถที่จะผ่านด่านเยอะมาก ยื่นเอกสารเสร็จเรียบร้อยทุกคนได้รับบัตรเข้าชมทะเลสาบฌางโก 






เส้นทางก็เหมือนเดิม เป็นเส้นทางไปตามภูเขา มีหินถล่มมาเป็นระยะๆแต่จะมีรถซ่อมบำรุงเส้นทางตลอด บางจุดก็ใช้แรงงานคนในการซ่อมถนน ระหว่างเส้นทางจะสวนกับรถทหารเป็นระยะ 
ข้อควรระวัง ถ้าเข้าเขตทหารห้ามถ่ายภาพนะคะ หรือสถานที่อื่นๆที่ห้ามถ่ายภาพ ต้องสังเกตด้วยนะว่าจุดไหนถ่ายได้หรือถ่ายไม่ได้




แวะเข้าห้องน้ำ อากาศเย็นมากเลย ชักจะกลัวแล้วล่ะ ขอซื้อหมวกเพิ่มซักหน่อยดีกว่า เพราะยิ่งขึ้นไปสูงขึ้นอากาศเริ่มหนาวมากขึ้น กันไว้ก่อนดีกว่า


เดินทางถึงทะเลสาบฌางโก Tsomgo Lake มีรูปทรงสัณฐานเป็นวงรี ลึกประมาณ 15 เมตร เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำลุงเฌ่ชู ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำวังโปและถือกันว่าเป็นต้นกำเนิดน้ำธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง
สนุกสนานกับการเดินเล่นรอบๆทะเลสาบฌางโก และกิจกรรมขี่จามรี สัตว์ภูเขาที่ได้รับการแต่งตัวด้วยสีสันสดใส ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันสนุกสนาน















กลับไปรับประทานอาหารกลางวัน เดินทางกลับเมืองกังต๊อก แวะที่วัด Enchey Monastery 







หลังจากนั้นเข้าชมความงามของดอกไม้นานาพันธ์ ณ Flower Show Hall ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนสาธารณะ




หลังจากนั้นรถไปส่งที่.MG market มีเวลาถึง 1 ทุ่ม วันนี้เข้าไปชิมชากันอีก สงสัยกลับเมืองไทยติดใจชาอินเดียซะแล้วมั๊ง

ได้เลือกซื้อเครื่องสำอางค์ Hinalaya เป็นเครื่องสำอางของอินเดียที่ผลิตจากธรรมชาติ ขอบคุณน้องทิพย์ที่แนะนำ น้องเค้าการันตีคุณภาพเพราะเคยซื้อไปฝากเพื่อน ก็เลยลองซื้อบ้าง ราคาก็ไม่แพง





เหลือเงินอยู่นิดหน่อยได้ของมาอีก 1 ชิ้น
ถึงเวลานัดพอดี รถก็มารับกลับโรงแรม ทานอาหารเย็นเสร็จเรัยบร้อยก็จัดกระเป๋าเดินทางเตรียมพร้อมเดินทางพรุ่งนี้ เดินทาง 7 โมงครึ่ง ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง คืนนี้ต้องรีบนอนแล้วล่ะ

วันที่ 9-10 พฤษภาคม 2558
กังต๊อก. สิริกูรี ( บักโดรา) กัลกัตตา. กรุงเทพ สุราษฎร์ธานี

ตื่นเช้าตั้งแต่ตี 5 ครึ่งทานอาหารเช้าและออกเดินทาง 7.30 น. วันนี้เปลี่ยนรถเป็นอีกคันนึงแล้วล่ะ เป็นคันที่ 5 แล้ว ถ้ารวม Taxi ด้วยจะต้องเป็นคันที่ 6 เดินทางสู่ท่าอากาศยานบักโดรา เมืองสีลิกูรี ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 



เมื่อถึงด่าน Sikkim ทางไกด์ต้องยื่นเอกสาร รวมพาสปอตและเอกสารขออนุญาตเข้าเมือง Sikkim. รถเลยจอดให้เรารอที่ Rangpo Tourist Lodge 


แสะรับประทานอาหารกลางวัน



เดินทางจากสนามบินบักโดรา ถึงสนามบินกับกัตตา โดยสายการบิน Indigo Airline เที่ยวบินที่ 6E534 การตรวจกระเป๋าของอินเดีย เข้มมาก โดยเฉพาะกระเป๋าที่ถือติดตัวขึ้นเครื่อง ต้องติด.Tag ของสายการบินทุกใบเมื่อผ่านเครื่อง scan แล้ว จะประทับวันที่ไว้ว่าผ่านการ Scan แล้ว 

การเข้าช่องทาง Scan ก็เหมือนกันเค้าแยกช่องผู้หญิง ผู้ชาย ช่องผู้หญิงมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิง และประทับตราที่ Boading Pass การตรวจแบบนี้เพิ่งเคยเจอครั้งแรกที่นี่เหมือนกัน ก่อนขึ้นเครื่องก็ตรวจ Tag ไม่น้อยกว่า 3 ครั้งก่อนขึ้นเครื่อง จากนั้นเดินทางต่อไปยังสนามบินกับกัตตา ไปถึงก็มีตัวแทนของบริษัททัวร์ที่ Contact.กับ Miss Travel มาต้อนรับนำพวกเราไป Check in ที่สนามบินกับกัตตา 




หลัง Scan กระเป๋าใบใหญ่ กระเป๋าที่มีซิปหลายจุด ถ้าไม่ได้ใส่กุญแจเค้าจะใช้สายรัดให้และมีสาวนัดรอบกระเป๋าอีกครั้งไม่ให้ใครใส่ของเพิ่มได้เลย แบบนี้ก็เจอที่นี่ครั้งแรกอีกเหมือนกัน 

ขอย้ำนะคะ Tag กระเป๋าที่ประทับตราแล้วอย่าให้หายมิฉนั้นเค้าจะไม่ให้เอากระเป๋าเข้าไป แต่ขวดน้ำนำเข้าไปได้

ก่อนจึ้นเครื่องมื้อนี้อิสระ พวกเราหาอะไรง่ายๆในสนามบินกินกัน ตรงนี้รับเงินรูปี ไม่รับดอลล่า 


ร้านขายของที่ระลึกบางร้านรับเงินไทย. รับเงินดอลล่า แต่ไม่รับเงินรูปี บางร้านก็รับเงินรูปี งงมากๆ อีกอย่าง ระหว่างนั่งรอเครื่องมีคนมารับแลกเงินรูปีด้วย ถ้าเงินเหลือเยอะก็แนะนำให้แลกเพราะได้ราคาดีกว่าไปแลกที่เมืองไทย.พวกเราไม่ได้แลกเพราะเหลือเงินรูปีกันนิดหน่อยเก็บเป็นที่ระลึกน่ะค่ะ

ออกเดินทางจากสนามบินกัลกัตตา สายการบิน Indigo Airline เที่ยวบินที่ 6E77 ออกเดินทางประมาณ 3 ทุ่ม ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณเที่ยงคืน +1.30 ชั่วโมง เวลาในเมืองไทยเร็วกว่าอินเดีย.1 ชั่วโมงครึ่ง

ที่สนามบินสุวรรณภูมิการรับกระเป๋าก็มีระบบตรวจเช็คจากหลักฐานตอน Check in ด้วยจึงจะรับกระเป๋าได้ มีเจ้าหน้าที่สนามบินมาตรวจเช็คด้วย

เดินทางต่อไปที่สนามบินดอนเมือง หาที่นั่ง ที่นอนพัก ได้เวลาประมาณตี 4 ครึ่ง Check in. เดินทางโดยสายการบิน Nok Air เที่ยวบิน   DD7208 เวลา 6.10-7.20 น.



ถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี โดยสวัสดิภาพ

ขอบคุณ www.miss-travel.net

ตอนที่ 1 ตอนที่ 2  ตอนที่ 3


ตอนที่ 1 เดินทางมา ดาร์จิลิ่ง กังต๊อก
ตอนที่ 2 กังต๊อก หมู่บ้านลาชุม หุบเขาชุมถัง
ตอนที่ 3 กังต๊อก ทะเลสาบฌางโก เดินทางกลับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ