ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 2 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2561)

ตอนที่ 2 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2561)

สวนทิวลิป (Indira Gandhi Tulip Garden), สวนชาลิมาร์ (Shalimar), สวนนิชาน (Nishat) , ล่องเรือชมตลาด (Dal Lake Market)

ตอนที่ 1   ตอนที่ 2    ตอนที่ 3   ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6

ตื่นเช้า ทานอาหารเช้าเรียบร้อย เช้านี้อากาศดีแสงสวยนางแบบพร้อม....วันนี้เป็นวันแห่งชมความสวยงามของสวนดอกไม้ และการ Shopping ล่ะค่ะ
















ได้เวลาลงเรือชิคารา ไปขึ้นที่ท่าเรือ....นั่งกันจนเบื่อไปข้างนึงล่ะ ไปกลับทุกวัน....







Siraj Bagh or Indira Gandhi Tulip Garden สวนทิวลิปสวยที่ศรีนาคา (Srinagar) Jammu and Kashmir, India สวนทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ค่าเข้าชมประมาณคนละ 60 รูปี โชคดีที่มาเช้านี้รถมาส่งได้ถึงทางเข้าเลย ไม่ต้องเดินเหมือนเมื่อวาน นางแบบได้พักผ่อนเต็มที่หน้าตาสดใส เข้ามาถึง ว๊าวๆๆๆๆ สวยมากๆ ดอกทิวลิปเป็นทุ่งสวยงาม หลากสีสัน...ตื่นเต้นถ่ายภาพไม่ถูกเลย มุมใกล้มุมไกล ถ่ายแต่ดอกไม้ ช่วงเวลานี้นางแบบไม่สำคัญซะแล้ว ขอถ่ายภาพดอกไม้ก่อนแล้วกัน




































สวนชาลิมาร์ (Shalimar) สวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุลในเมืองศรีนาคา ซึ่งได้ก่อสร้างโดยจักรพรรดิจาฮันจีร์ เพื่อภรรยาของเขา Nur Jehan และเป็นที่เสด็จประทับในฤดูร้อน Heritage Mughal Garden Shalimar in Srinagar,Jammu and Kashmir, India ค่าเข้าชมคนละ 25 รูปี

























ไม่ว่าจะเดินไปไหนพ่อค้าเต็มไปหมด หันหน้าไปนิดเดียวพ่อค้าวิ่งมากรูเลย ตื้อเก่งมาก น้าวัชและคณะเลยได้หมวกมองโกลมาคนละใบอย่างเท่ห์เลยค่ะ น้าวัช.....







สวนนิชาน (Nishat) ตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบดาล มีภูเขาซาร์บาวาล ตั้งเป็นฉากหลัง เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด ชาวแคชเมียร์ที่มักใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ พบปะ พูดคุย ปิคนิคทานอาหารเย็นกันที่สวนแห่งนี้
Heritage Mughal Garden Nishat in Srinagar,Jammu and Kashmir, India ค่าเข้าชมคนละ 25 รูปี



เข้ามาด้านในก็จับจองที่นั่งที่เหมาะๆกันเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่พี่ตู่และเหล่าแม่ครัวช่วยกันปรุงอาหารมื้อกลางวัน เมนูผัดมาม่า กับปลากรอบ เป็นอาหารมืออร่อยกินอาหารกับบรรยากาศเย็นๆ


ทานอาหารอิ่มแล้ว เด็กๆสนใจแต่งตัวชุด Kashmir คนละ 150 รูปี/ภาพ เค้าจะถ่ายให้หลายภาพแต่เราเลือกได้ว่าจะเอากี่ภาพก็ได้ แต่เค้าไม่ยอมให้เราถ่ายภาพเด็กๆ ต้องใช้วิธีซูมถ่ายภาพล่ะ































ด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าคือ Dal Lake


หลังจากนั้นก็แวะ Shopping กันที่ร้าน Village Art Gallery ครั้งแรกเค้าพาพวกเราทั้งหมดไปที่ห้องขายพรม นำเสนอตัวอย่างพรมแบบและขนาดต่างๆ ยังไม่มีคนสนใจ หลังจากนั้นเค้าก็พาไปอีกห้องเป็นห้องขายผ้าพันคอ เสื้อผ้า นั่นล่ะของที่ทุกคนสนใจ ซื้อกันกระจุยกระจาย ที่นี่จ่ายได้ทั้งเงินรูปี และ ดอลล่าห์ แต่เท่าที่คำนวณถ้าจ่ายด้วยดอลล่าห์ จะถูกกว่า ขอบใจเอ็ดมากต่อรองราคาได้สุดยอดเก่งมากๆ ซื้อผ้ากันพอสมควร หลายคนขยับขยายย้อนกับไปอีกห้องซื้อพรมกันอีกได้ราคาถูกลงกว่าเดิมอีกมาก....ได้ราคาประมาณ 1 ใน 4 ที่เค้าบอกตอนแรกเลยนะนี่






ลงเรือชิคารากลับที่พักดื่ม Afternoon Tea นั่งพักพอหายเหนื่อย ได้เวลานั่งเรือชิคารารอบๆ Dal Lake ผ่านไปตามร้านค้าต่างๆ ช่วงแรกๆที่นั่งเรือ จะมีเรือที่มาขายของเกาะเรือจนเราไม่ได้ดูวิวเลย จะถ่ายภาพก็ไม่ได้วันอื่นๆ ระยะทางสั้นๆจากที่พักไปท่าเรือ แต่วันนี้ระยะทางในการนั่งเรือเกือบชั่วโมง ไอ้เราก็ไม่อยากซื้อของอะไร อยากชมวิวและถ่ายภาพ 1-2 ลำแรกมาน้องพลอยบอกตรงๆว่าของคุณฉันไม่สนใจ หลังจากนั้นคนพายเรือก็จะช่วยบอกให้เลยว่าเราไม่ซื้อของ เลยนั่งสบายหน่อยได้ชมวิวและถ่ายภาพเต็มที่เลยล่ะ เย็นนี้อากาศดีแสงสวยได้ภาพวิวสวยๆหลายภาพเลยค่ะ ขอแนะนำนะคะถ้าใครนั่งเรือชิคารา ที่ Dal Lake แล้วไม่ต้องการซื้อสินค้าให้บอกตรงๆและให้คนพายเรือช่วยพูดด้วยอีกแรงคุณจะมีความสุขในการนั่งเรืออย่างมากมายเลยล่ะค่ะ

















เมื่อเข้าใปด้านในจะมีร้านค้าต่างๆทั้ง 2 ฝั่งคลอง ไกด์คาร์ล นำมาแวะที่ร้านนี้ พอขึ้นเรือต้องจำด้วยนะคะว่ามาด้วยลำไหน เดี๋ยวตอนกลับเราต้องกลับลำเดิม จะไม่เข้าไปในร้าก็ไม่ได้เค้าจะพยายามให้เราเข้าไปกับกลุ่ม


เริ่มจากให้เข้าไปดูวิธีการปั่นด้าย นิดเดียว พอเป็นพิธี เป็นเทคนิคการขายของทุกประเทศล่ะเดี๋ยวนี้



หลังจากนั้นก็เข้าไปในร้านขายผ้าซื้อกันสนุกอีกล่ะที่นี่ก็ต้องขอบใจเอ็ดอีกต่อรองได้มันมากๆ ทำให้แต่ละคนได้ของกันคนละชิ้นสองชิ้น ตัวเบากลับออกมาจากร้านกันล่ะ




จากนั้นก็ลงเรือชิคารา นั่งเรือเล่นต่อไปถึงที่พัก จ่ายทิปให้คนพายเรือ 100 รูปี










รับประทานอาหารเย็น วันนี้อร่อยขอกับข้าวเพิ่ม โดยเฉพาะ French Fries อร่อยมาก หลังรับประทานอาหารค่ำอิ่มแล้ว ก็ Order อาหารเช้ากันไว้ล่วงหน้า



ถึงเวลานอนหลับอย่างสบายด้วยผ้าปูที่นอนไฟฟ้า.......อุ่นสบาย  ก่อนนอนพ่อบ้านก็จะมา Good Night อีกเหมือนเดิม......


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ