ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 1 เที่ยวกุ้ยหลิน เมืองสวรรค์บนพิภพ วันที่ 27-31 กรกฎาคม 2561 (เตรียมตัว เดินทาง กุ้ยหลิน หมู่บ้านจ้วง )


ตอนที่ 1   ตอนที่ 2  ตอนที่ 3

กุ้ยหลิน มีที่มาของชื่อมาจาก ต้นขี้เหล็ก ซึ่งส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมืองยามดอกบานในฤดูใบไม้ร่วง ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง อยู่ทางตอนใต้ของจีน เป็นที่ราบแอ่งกระทะ ที่มีเทือกเขาขนาดเล็กยาวคดเคี้ยวติดต่อกัน และยังเป็นเขตหินปูนขาวที่มีถ้ำหินปูนสวยงามอยู่มากมาย เป็นสถานที่สวยงามที่สุดแห่งเมืองจีน ทั้งภูเขา สายน้ำ และบ้านเมือง ที่คนจีนยกให้เป็น "เมืองสวรรค์บนพิภพ" ว่ากันว่าจิตรกรคนใดที่ยังไม่เคยมาเที่ยวกุ้ยหลิน ก็จะไม่สามารถวาดรูปขุนเขาให้สวยงามได้เลย




การเตรียมตัว
ติดต่อทัวร์
จองตั๋วเครื่องบิน
จองที่พัก
ขอวีซ่า ศึกษาเพิ่มเติมจากลิงค์นี้ด้วยนะคะ

เวลา เมืองจีนเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง

อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน

สรุปค่าใช้จ่ายทริปกุ้ยหลินต่อคน
ค่าตั๋วเครื่องบินสุราษฎร์ -  ดอนเมือง                           545 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินสุวรรณภูมิ - กุ้ยหลิน - สุวรรณภูมิ   12,065 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินดอนเมือง -  สุราษฎร์ธานี                     595 บาท
ค่าวีซ่าจีน                                                                  1,500 บาท
ค่าทำประกันเดินทางไปต่างประเทศ                             300 บาท
ค่าแพกเกจทัวร์ตลอดทริป 1,500 หยวน                     7,402 บาท
ค่าอาหารเช้า+อาหารเย็นตลอดทริป                         1,022 บาท
ค่าโรงแรม 4 คืน                                                        2,285 บาท
ค่าทิปไกด์ Lily                                                             268 บาท
ค่าทิปพนักงานขับรถ                                                    223 บาท
อื่นๆ (ค่าอัดรูป ค่าส่งเอกสาร ค่ารถไฟฟ้า)                   182 บาท
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป                                         26,387 บาท

บริษัททัวร์ 
Wendy Wei Tours

วันที่ 27 กรกฎาคม 2561
 07.20 น.เดินทางจากสุราษฎร์ธานีไปสนามบินดอนเมืองโดยสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL0749 (น้ำหนักกนะเป๋าโหลด 10 กิโลกรัม) เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิโดย Shuttle Bus
เช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9 โดยสายการบิน CHINA SOUTHERN AIRLINE  

รับประทานอาการกลางวัน

13.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองกุ้ยหลิน เที่ยวบิน CZ6100 แวะสนามบินอู๋ซู เมืองหนานหนิง เพื่อทำพิธีตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นกลับขั้นเครื่องบินเดินทางต่อสู่เมืองกุ้ยหลิน

18.45 น. เดินทางถึงสนามบินเหลียงเจียง กุ้ยหลิน









มีพนักงานขับรถของทัวร์ที่จองไว้มารับไปส่งที่โรงแรม Guilin Central Hostel
ที่อยู่: 3 Ren Min Rd, Xiufeng District. Guilin, Xiufeng, Guilin.  541001
โทรศัพท์: +86 773 281 9936


รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรมอาหารแต่ละชุดเยอะมากทานไม่หมดหรอกค่ะแม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม โรงแรมจะอยู่ใกล้กับถนนที่มีการขายสินค้าต่างๆทั้งประเภทอาหาร ของที่ระลัก เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ แนะนำให้เดินออกมาทานที่ร้านอาหารบริเวณนี้ดีกว่ามีอาหารให้เลือกมากกว่าที่โรงแรมค่ะ แต่พวกเราเดินทางมาไกลสมาชิกพร้อมใจกันของทางที่โรงแรมแล้วค่อยเดินออกไปชมเมืองกันค่ะ มีน้องพลอยทำหน้าที่รับออเดอร์อาหาร ได้ตำแหน่งใหม่ล่ะ...



เดินชมเมืองภาคค่ำ ยังไม่มีแพลนจะซื้ออะไรคืนนี้ขอสำรวจสินค้าก่อน




เดินข้ามถนนไปที่สวนสาธารณะไปชม เจดีย์เงิน เจดีย์ทอง เป็นสิ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของกุ้ยหลิน ตั้งอยู่กลางทะเลสาบซานหู เป็นเจดีย์คู่สูงราว 40 เมตร ที่เจดีย์หนึ่งสร้างด้วยทองเหลือง โดยเป็นเจดีย์ทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนอีกเจดีย์หนึ่งที่อยู่คู่กันสร้างด้วยปูนเป็นสีเงิน เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามมาก อยากเห็นเป็นสีเงินสีทองชัดเจน จะต้องมาดูตอนกลางคืน จะเห็นแสงสีอันงดงามของแสงไฟที่ส่องสว่างทั้งองค์เจดีย์ สะท้อนกับผิวน้ำทะเลสาบซานหู ถ้าจะไปชมแสงสีต้องไปก่อนสามทุ่มนะ เพราะหลังจากนั้นจะปิดไฟแล้ว







วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ตื่นเช้าอุปกรณ์พร้อม คนพร้อมที่จะไปเที่ยววันนี้แล้วล่ะ



รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออเดอร์ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ ปริมาณอาหารจานใหญ่มาก 1 ชุดทานได้ 2 คนสบายๆค่ะ





เดินชมเมืองช่วงเช้าระหว่างรอไกด์มาตามนัด เวลา 8.00 น.


เดินชม เจดีย์เงิน เจดีย์ทอง ยามเช้า ความสวยต่างจากที่ไปดูเมื่อคืนเลยค่ะ เมื่อคืนได้แสงช่วยทำให้เจดีย์ดูโดดเด่น สวยงามมาก









ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกัน ใกล้เวลานัดกับไกด์ เดินกลับมาโรงแรม ช่วงเช้าเดินสบายๆ คนไม่เยอะ






8.00 น. เดินทางสู่ Zhuang Village (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) 




ระหว่างที่ไกด์จะหาซื้อตัวรถ Shuttle Bus ขึ้นไปหมู่บ้านจ้วง คนเอยะมากๆๆๆ แดดก็เริ่มแรง อากาศเริ่มร้อน คงต้องรออีกนาน รอช้าอยู่ใย พี่ๆเค้าก็เลือกซื้อผลไม้กัน










ระหว่างรอคิวขึ้นรถ Shuttle Bus ขึ้นไปหมู่บ้านจ้วงรอด้านนอกไม่ไหว ต้องเข้าไปรอในอาคารมีแอร์ด้วยแต่ต้องแลกกับเสียงนักท่องเที่ยวเสียงดังกระหึ่ม มีลูกทัวร์ทะเลาะกับไกด์ก็มี ทุกอรรถรสเลยล่ะ รอนานจริงๆด้วย










ได้เวลานั่ง Shuttle Bus ไปส่งที่จุดเริ่มต้น เดินชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านจ้วง ใช้เวลาเดินประมาณ 25 นาที ถ้าใครเดินไม่ไหวจะมีรถไฟฟ้าบริการคิดค่าบริการคนละ  20 หยวน ประมาณคนละ 100 บาท ในคณะเราก็มีสมาชิกส่วนนึงที่คิดว่าเดินไม่ไหวแน่ๆขอนั่งรถไฟฟ้า ทีมช่างภาพไม่มีใครยอมนั่งรถไฟฟ้าทุกคนขอเดินเก็บภาพ ปกติเค้าเดินกันเพียง 25 นาที แต่พวกเราใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง เดินถ่ายภาพความสวยงามของนาขั้นบันได 











































































































ทางเดินขึ้นมาชมนาขั้นบันได ยอมรับเลยค่ะว่าสุดยอด ทางรถ มีฟุทบาทสำหรับเดินได้สะดวก ขอบๆๆๆ มาลำบากอิตอนลงไปทานอาหารกลางวันนี่ซิ ต้องเดินระวังมากๆ มีกับดักของไก่เยอะ ถ้าเดินมาเองคงหลงนะนี่









ได้เวลารับประทานอาหารกลางวัน ก็จะเป็นร้านอาหารของชาวบ้านท้องถิ่น มีการหุงข้าวและอาหารแบบพื้นเมืองจริงๆ เค้าก็จะสอนวิธีการกินอาหารแต่ละอย่าง อาหารอร่อยทุกอย่างของสดๆจากไร่ของชาวบ้านเอง





























ข้าวโพดหวานอร่อยมากพี่ตู่เลยขอซื้อให้เค้าต้มให้มาแบ่งกัน สมาชิกเลยมานั่งรอกันที่ Tourist Rest Area ระหว่ารอข้าวโพด ก็เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองกัน แม่ค้าชอบถ่ายภาพมากยิ้มแป้นแล้นเชียว











ขากลับทุกคนตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้าเพื่อไปต่อรถ Shuttle Bus




วันนี้ได้เที่ยวเฉพาะหมู่บ้านจ้วง ได้ภาพสวยๆของนาขั้นบันไดก็ถือว่าคุ้มสุดๆแล้วล่ะค่ะ จากนั้นก็กลับที่พัก จากนั้นไกด์นำเยี่ยมชมบริเวณตลาดใกล้ๆที่พักและกำแพงเมือง







































เดินย้อนกลับมาชมเจดีย์เงิน เจดีย์ทอง  ในภาคค่ำอีกครั้งสวยกว่าไปชมตอนกลางวันจริงๆด้วย












รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารใกล้ๆโรงแรม ไกด์แนะนำการสั่งอาหารให้เรียบร้อยก็กลับที่พัก












เดินเล่นอีกนิดหน่อยก็กลับที่พักเตรียมพร้อมกำหนดวันพรุ่งนี้ค่ะ...

ตอนที่ 1   ตอนที่ 2  ตอนที่ 3

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10 เมษายน 2561)

ตอนที่ 1 เดินทางเ แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย 10-17 เมษายน 2560 (10-11 เมษายน 2561) การเตรียมตัว สนามบินสุราษฎร์ธานี   สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินนิวเดลี สนามบินศรีนาคา  เข้าพักที่ Chicago Group of Houseboats ตอนที่ 1    ตอนที่ 2     ตอนที่ 3    ตอนที่ 4     ตอนที่ 5     ตอนที่ 6 การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน การซื้อทัวร์ที่ SRINAGAR การขอ E-VISA การทำประกันการเดินทาง เดินทางในประเทศ เที่ยวไป 10 เมษายน 2561 เดินทางโดย นกแอร์ สุราษฎร์ธานี - ดอนเมือง เวลา 18.10 - 19.20 น. เที่ยวกลับ 17 เมษายน 2561 เดินทางโดยไลออนแอร์ ดอนเมือง - สุราษฎร์ธานี 08.50-10.00 น. เดินทางต่างประเทศ เดินทางโดย Spice Jet http://www.spicejet.com/ เที่ยวไป SG88 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินเดลี DEL/ T3  เวลา 03.50-06.25 เที่ยวไป SG937 วันที่ 11 เมษายน 2561 จากสนามบินเดลี DEL- สนามบินศรีนาคา SXR  เวลา 09.50-11.40 เที่ยวกลับ SG144 วันที่ 16 เมษายน 2561 จากสนามบินศรีนาคา SXR -สนามบินเดลี DEL เวลา 12.20-14.00 เที่ยวกลับ SG87 วันที่ 16

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (7-9 เมษายน 2560 เดินทาง โกลกัตตา-นิวเดลี-เลห์)

ตอนที่ 1 เดินทางเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย (เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เดินทางจากสุราษฎร์ธานี-สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินกัลกัตตา Kolkata I -สนามบินนิวเดลลี) ตอนที่ 1   ตอนที่ 2   ตอนที่ 3   ตอนที่ 4   ตอนที่ 5   ตอนที่ 6 ก่อนเดินทางไปเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย สิ่งแรกก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็คือดูว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางไปอินเดีย ครั้งแรกไปสิกขิมอยู่ทางเหนือของอินเดีย อยู่ระหว่าเนปาลกับภูฎาน แต่เลห์ ลาดัก จะขึ้นไปทางเหนือของอินเดียมากกว่าสิกขิม เลยเมืองนิวเดลี ขึ้นไป ทางด้านปากีสถานดูแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ ต่อมาก็เริ่มศึกษาจากรีวิว เลห์ ลาดักห์ จากหลายๆแหล่ง มีเยอะมากแสดงว่าคนนิยมมาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะจาก YouTube ชอบหลายคลิป โดยเฉพาะของรายการคนค้นคน...และของรายการ Travel Channel Thailand ช่วงนี้ว่างเป็นต้องชมคลิป เลห์ ลาดักห์.....เพื่อความสะดวกในการชมคลิปขอนำมาแปะที่หน้าบล็อกนี้เลย.....นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทางไปนะคะยังฟินขนาดนี้.....😍😍 ลำดับต่อมาก็คือการจองตั๋ว ปกติไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ค่อยได้

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH)

ตอนที่ 4 เดินทางเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย 7-15 เมษายน 2560 (12 เมษายน 2560 LEH) ตอนที่ 1    ตอนที่ 2    ตอนที่ 3    ตอนที่ 4    ตอนที่ 5    ตอนที่ 6 12 เมษายน 2560 ตื่นเช้าเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางผ่านภูเขาหิมะจากตัวเมือง Leh Ladakh สู่ Pangong Lake ทะเลสาบน้ำแข็ง กำหนดว่าจะออกเดินทาง 6.00 น. โดยเค้าจะเตรียม Breakfast Box ให้ อากาศจะหนาวมากให้เตรียมของไปให้พร้อมด้วย น้ำดื่ม และอ๊อกซิเจนกระป๋องห้ามลืมนะคะสำคัญมากๆ คณะที่ไปทะเลสาบปันกองมีที่ขอ Permit ไว้ 7 คน (น้าวัช น้องเขม น้องเอ็ต น้องพลอย น้องกิต พี่ตุ๊ พี่แดง ) ยื่นขอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง หิมะตกมากทางปิดมา 2-3 วันแล้วโชคดีที่วันนี้ไปได้ ระยะทางประมาณ 120 km ใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงไปกลับ 12 ชั่วโมง...บรรยากาศระหว่างการเดินทางดูจากภาพนะคะ ชัดเจนกว่าการบรรยายแน่นอน...แบ่งเส้นทางเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือช่วงที่ออกจากเมือง Leh ถนนลาดยาง ระดับที่ 2 เริ่มออกนอกเมือง เริ่มเป็นถนนหิน+ดิน ระยะที่ 3 เป็นถนนที่เลียบภูเขาและผ่านหิมะ ค่อนข้างโหด........... จุดที่พักเข้าห้องน้ำ จุดแรกหนาวมากๆๆๆๆๆ เดินไปห้องน้ำ ต้องเ